United Kingdom
ข้อมูลประเทศอังกฤษ ประเทศอังกฤษ เป็นประเทศที่มีความโดดเด่นมากทั้งในเรื่องของ ศิลปะ วัฒนธรรม และการศึกษาคนส่วนใหญ่นิยมไป เรียนต่ออังกฤษ เนื่องจากจะได้ความรู้ทางด้านวิชาการแล้ว การไปเรียนต่อประเทศอังกฤษ ยังจะได้ฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องการขอวีซ่าประเทศอังกฤษ ไม่ได้ยากนัก การขอวีซ่าอังกฤษ ถ้าผู้ขอมีความพร้อมทั้งในเรื่อง การเงิน การศึกษาพื้นฐานแล้ว วีซ่าก็มักจะผ่านไปได้ด้วยดี
ข้อมูลทั่วไปของอังกฤษ
ประเทศอังกฤษตั้งอยู่บน เกาะบริเทนใหญ่ และอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป อาณาเขตติดต่อ ทางทิศเหนืออยู่ติดกับสกอตแลนด์ ทิศตะวันตกอยู่ติดกับเวลส์ ทิศที่ไม่อยู่ติดกับแผ่นดินเลยคือทิศตะวันออก
ซึ่งอยู่ติดกับทะเลไอริช ทะเลเซลติก และทะเลเหนือ ส่วนทางทิศใต้ มีช่องแคบอังกฤษคั่นกับทวีปยุโรป โดยจุดที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากประเทศฝรั่งเศส เป็นระยะทาง 34 กิโลเมตร บริเวณช่องแคบโดเวอร์
คำว่า “อิงแลนด์” (England) ซึ่งเป็นชื่อในภาษาอังกฤษของประเทศอังกฤษในปัจจุบัน ได้มาจากชื่อ “อังเกิล” (Angles) ซึ่งเป็นชนเผ่าหนึ่งในบรรดาชนเผ่าเยอรมันหลายเผ่าที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนนี้ ตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึง 6 โดยมาจาก “Engla Land” และกลายมาเป็น “England” ในปัจจุบัน
ประเทศอังกฤษเป็นประเทศหนึ่งใน สหราชอาณาจักร (ชื่อเต็มคือ United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland หรือ สหราชอาณาจักรบริเทนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ) โดยประกอบด้วยอีก 3 ชาติ ได้แก่ สกอตแลนด์ เวลส์ และ ไอร์แลนด์เหนือ (สกอตแลนด์ และเวลส์ ตั้งอยู่บน เกาะบริเทนใหญ่เหมือนกับประเทศอังกฤษ ส่วน ไอร์แลนด์เหนือ ตั้งอยู่บนเกาะไอร์แลนด์) โดยประเทศทั้ง 4 ได้รวมตัวกัน โดยมีการพัฒนายุทธศาสตร์และผลประโยชน์ที่จะได้รับร่วมกัน สำหรับประวัติการรวมกันของทั้ง 4 ชาตินั้น สามารถหาอ่านได้จาก ประวัติโดยย่อของสหราชอาณาจักร
แผนที่ในกรอบสี่เหลี่มสีเหลืองแสดง เกาะบริเทนใหญ่ (ขวามือ) และเกาะไอร์แลนด์ (ซ้ายมือ)
โดยสีส้ม แสดงอาณาเขตของอังกฤษ ส่วนสีน้ำตาลอ่อนแสดงอาณาเขตทั้งหมดของสหราชอาณาจักร
ซึ่งสหราชอาณาจักรรวมอาณาเขตของประเทศอังกฤษที่เป็นสีส้มเข้าไปด้วย
(Credit ภาพ : David Liuzzo)
เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ มีชื่อว่า ลอนดอน ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ (ลอนดอน เป็นเมืองหลวงของสหราชอาณาจักรด้วย)ธงชาติอังกฤษ (ซ้าย) และ ธงชาติสหราชอาณาจักร (ขวา)
ข้อมูลประเทศอังกฤษ การเมืองการปกครอง
อังกฤษ มีรูปแบบรัฐเป็นแบบ ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบมีรัฐสภา โดยพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจบริหารผ่านคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล คณะรัฐมนตรีนั้นเลือกโดยรัฐสภา รัฐสภาของประเทศอังกฤษ เป็นแบบสภาคู่ แบ่งเป็น 2 สภา คือ เฮาส์ออฟลอร์ดส (House of Lords) เป็นสภาสูงที่มาจาก การแต่งตั้ง และเฮาส์ออฟคอมมอนส์ (House of Commons) เป็นสภาล่างที่มาจากการเลือกตั้ง ประเทศอังกฤษไม่มีรัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษร และกฎหมายส่วนใหญ่ก็ปรากฏอยู่ในรูปประเพณีปฏิบัติ
พระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบันของประเทศอังกฤษ คือ สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และผู้ดำรงตำแหน่งมกุฏราชกุมารพระองค์ปัจจุบัน คือ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ส่วนนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของอังกฤษ คือ เดวิด คาเมรอน
สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2
ลักษณะภูมิประเทศ
ภูมิประเทศของอังกฤษนั้นส่วนมากจะเป็นแผ่นดินนูนสลับแผ่นดินต่ำ มีภูเขาอยู่ทางตอนเหนือและทางตอนตะวันตกเป็นแนวแบ่งเขต มีพื้นที่โดยรวมประมาณ 130,395 ตารางกิโลเมตร มีเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือเขตลอนดอน ในประเทศอังกฤษไม่มีภูเขาที่สูงกว่า 1,000 เมตร และมีหมู่เกาะอังกฤษ ที่ประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ถึงประมาณ 1,098 เกาะ แม่น้ำมีหลายสายแต่แม่น้ำที่ยาวที่สุดในประเทศอังกฤษ คือ แม่น้ำเทมส์ ซึ่งมีความยาวถึง 346 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีแม่น้ำที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอื่นอีก ได้แก่ แม่น้ำเมอร์ซีย์ที่ลิเวอร์พูล แม่น้ำไทน์ในนิวคาสเซิล
การแบ่งภูมิภาคประเทศอังกฤษแบ่งได้ทั้งหมด 9 ภูมิภาคดังนี้
- East Midlands มีพื้นที่ประมาณ 15,627 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อาณาบริเวณทางตะวันออกของอังกฤษ ประกอบด้วย Nottinghamshire, Derbyshire, Leicestershire, Rutland, Northamptonshire และพื้นที่ส่วนใหญ่ของมณฑล Lincolnshire
- East of England มีพื้นที่ประมาณ 19,120 ตารางกิโลเมตร ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1994 และได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในเขตการปกครองในปี ค.ศ. 1999 ภูมิภาคนี้ประกอบด้วย Essex, Hertfordshire, Bedfordshire, Cambridgeshire, Norfolk และ Suffolk
- Greater London มีพื้นที่ประมาณ 1,572 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ ประกอบด้วย London, Hertfordshire, Buckinghamshire, berkshire, Surrey และ Kent
- North East England มีพื้นที่ประมาณ 8,592 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย Northumberland, County Durham, Tyne และ Wear, และ Teesside นอกจากนี้ยังครอบคลุมพื้นที่บางส่วนทางตอนเหนือของ North Yorkshire อีกด้วย
- North West England ภูมิภาคนี้มีพื้นที่ประมาณ 14,165 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย Cumbria, Lancashire, Greater Manchester, Merseyside, and Cheshire
- South East England มีพื้นที่ประมาณ 19,096ตารางกิโลเมตร ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1994 ประกอบด้วย Berkshire, Buckinghamshire, East Sussex, Hampshire, Isle of Wight, Kent, Oxfordshire, Surrey และ West Sussex
- South West England มีพื้นที่ประมาณ 23,829 ตารางกิโลเมตร นับว่าเป็ภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ Bristol, Gloucestershire, Somerset, Dorset, Wiltshire, Devon, Cornwall และ the Isles of Scilly
- West Midlands มีพื้นที่ประมาณ 13,004 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทางตะวันตกของอังกฤษที่เราเรียกกันว่า Midlands รวมทั้งมณฑล Birmingham นอกจากนั้นก็ยังรวมกลุ่มเมืองมิดแลนด์สตะวันตก (West Midlands conurbation) ที่รวมทั้งWolverhampton Dudley, Solihull, Walsall Dudley, Solihull, Walsall and West Bromwich รวมทั้ง Coventry ที่ตั้งอยู่ใน West Midlands county แต่แยกจากกลุ่มเมืองมิดแลนด์สตะวันตกโดยแนวไม้ (green belt) ที่ยาวหลายกิโลเมตร
- Yorkshire and the Humber มีพื้นที่ประมาณ 15,420 ตารางกิโลเมตร มีพื้นที่ครอบคลุมเขต historic county ของ Yorkshire ของ Yorkshire เกือบทั้งหมด รวมทั้งพื้นที่ส่วนหนึ่งทางตอนเหนือของ Lincolnshire
อุณหภูมิและสภาพอากาศในอังกฤษ
อุณหภูมิของประเทศอังกฤษ (หน่วยเป็น องศาเซลเซียส) โดยส่วนใหญ่จะไม่ต่ำกว่า 0 องศาในฤดูหนาว และไม่เกิน 32 องศาในฤดูร้อน สภาพอากาศโดยส่วนใหญ่ค่อนข้างชื้นและเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง มีฝนตกประปรายตลอดทั้งปี เขตที่มีปริมาณฝนมากที่สุด คือ ทางด้านตะวันตกของประเทศ
เดือนที่อากาศเย็นที่สุดในอังกฤษ คือเดือน มกราคมหรือกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่เป็นชายฝั่ง เพราะได้รับอิทธิพลจากทะเล เดือนที่อบอุ่นที่สุดในอังกฤษ คือ เดือนกรกฎาคม ซึ่งอากาศอบอุ่นจะอยู่ในช่วงเดือน พฤษภาคม – ตุลาคม โดยปัจจัยที่มีผลต่อสภาพภูมิอากาศของประเทศอังกฤษ คือ สภาพพื้นที่ที่อยู่ใกล้หรือไกลกับมหาสมุทรแอตแลนติก เส้นละติจูดเหนือและกระแสน้ำอุ่นในมหาสมุทรแอตแลนติก
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยวัดได้ในอังกฤษ คือ 38.5 องศา ที่เมือง Brogdale ใน Kent เมื่อ 10 สิงหาคม 2546 ในขณะที่อุณหภูมิต่ำสุดในประเทศอังกฤษที่เคยวัดได้ คือ -26.1 องศา ที่เมือง Edgmond, Shropshire เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2525
ฤดูของประเทศอังกฤษมีทั้งหมด 4 ฤดู คือ
- ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ15 – 20 C
- ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 15 – 32 C
- ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน -พฤศจิกายน อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 8 – 14 C
- ฤดูหนาว เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 0 – 4 C
เวลา
- ประเทศอังกฤษเวลาจะเดินช้ากว่าประเทศไทย 7 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 26 มีนาคม (ใช้มาตรฐานเวลา GMT UTC+0)
- ประเทศอังกฤษเวลาจะเดินช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 29 ตุลาคม (ใช้มาตรฐานเวลา GMT UTC+1)
ประชากร
ประเทศอังกฤษจัดเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางเชื้อชาติ แต่ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาว 87.5% เป็นคนเอเชียใต้ 6 % เป็นคนผิวสี 2.9% ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มผสมเชื้อชาติต่าง ๆ อาทิเช่น ชาวจีน เอเชียตะวันออก เป็นต้น ประชากรในอังกฤษโดยประมาณที่สำรวจไว้เมื่อปี 2010 มีจำนวน 52,234,000 คน
ความหนาแน่นของประชากรในอังกฤษ สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ประมาณหนึ่งในสี่ของประชากรทั้งหมดอาศัยอยู่ในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ซึ่งมีสภาพทางเศรษฐกิจที่ดี และส่วนใหญ่เป็นเขตเมืองหรือชานเมือง ประชากรประมาณ 7.5 ล้านคนอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน
ภาษา
ภาษาทางการของอังกฤษมี 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ และ ภาษาเวลช์ แต่ภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด คือ ภาษาอังกฤษ นอกจากนี้มีการใช้ภาษา Cornish กันบ้างในบางพื้นที่
ภาษาอังกฤษได้แพร่กระจายไปทั่วโลก จากอิทธิพลของจักรวรรดิบริเทนในอดีต และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองที่สอนกันมากที่สุดในโลก และเป็นประเทศที่มีผู้สนใจมา เรียนต่ออังกฤษ เป็นจำนวนมาก
ศาสนา
คริสต์ศาสนา เป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในอังกฤษ ปัจจุบัน คริสต์ศาสนา นิกายเชิร์ชออฟอิงแลนด์เป็นศาสนจักรประจำชาติของอังกฤษ และเป็นแม่ข่ายของชุมชนแองกลิคันทั่วโลก (ความเชื่อของแองกลิคันจะพบได้ในคำเขียนในพระวรสาร ประเพณีของโบสถ์สาวก และผู้สอนศาสนาแต่เดิม ลักษณะโครงสร้าง ความเชื่อทางคริสต์ศาสนวิทยา และลักษณะการทำพิธีเป็นลักษณะเอกลักษณ์ที่เป็นสายกลางระหว่าง นิกายโรมันคาทอลิก และ นิกายโปรเตสแตนต์ หรือที่เรียกว่า “ทางสายกลาง” ของนิกายทั้งสาม) ส่วนศาสนจักรโรมันคาทอลิกเป็นนิกายคริสต์ศาสนาที่ใหญ่เป็นอันดับสองส่วนศาสนาอื่น ก็สามารถนับถือได้อย่างเสรีในอังกฤษ โดยศาสนาอื่นที่มีผู้นับถือ ได้แก่ ศาสนาอิสลาม ศาสนาฮินดู และศาสนาพุทธ ซึ่งมีศาสนิกชนจำนวนไม่น้อย ในขณะที่ศาสนาซิกข์และศาสนายูดายมีศาสนิกชนรองลงมา นอกจากนี้ มีประชากรจำนวนไม่น้อยประกาศตัวว่าไม่นับถือศาสนาใด ๆ เลย
สกุลเงิน
เงินปอนด์
นักเรียนที่สนใจเดินทางไป เรียนต่ออังกฤษ จำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่องเงินที่ใช้ ในประเทศอังกฤษ ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร และใช้ในรูปแบบใดบ้าง โดยมีรายละเอียดและประวัติดังนี้
เงินปอนด์ (Pound Sterling) เริ่มใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ กล่าวคือ เมื่อประมาณ พ.ศ. 1320 ราชอาณาจักรซักซอน (อาจเรียกว่าพวกอังกฤษสมัยโบราณก็ได้ แต่ความจริงแล้ว ซักซอนไม่ได้เป็นบรรพบุรุษโดยตรงของอังกฤษปัจจุบัน) ได้ทำเหรียญกษาปณ์ขึ้นจากโลหะเงินแท้ น้ำหนัก 1 ปอนด์ ซึ่งได้เหรียญเงินเป็นจำนวน 240 อัน เรียกว่าเหรียญสเตอร์ลิง และด้วยน้ำหนักเท่ากับ 1 ปอนด์นี้เอง เมื่อต้องใช้จ่ายเงิน ก็จะบอกค่าเป็นจำนวนปอนด์ของเหรียญสเตอร์ลิง (Pounds of Sterling) และภายหลังเรียกสั้นลงว่า ปอนด์สเตอร์ลิง (Pound Sterling)
ครั้นเมื่อพวกนอร์มัน (Norman) เข้ามาครองอำนาจแทนพวกซักซอน พวกนี้ได้แบ่งหน่วยเงินตราปอนด์ออกเป็นหน่วยย่อย คือ 1 ปอนด์ แบ่งได้ 20 ชิลลิง (shilling) และ 1 ชิลลิง ยังแบ่งได้อีกเป็น 12 เพนนี (เอกพจน์ penny, พหูพจน์ pennies หรือ pence)
เรื่องค่าของปอนด์นั้นยังไม่จบ เพราะตัวย่อของปอนด์นั้นมีปัญหา เมื่ออักษรย่อของปอนด์นั้น ใช้ lb หรือ ? ซึ่งทำให้สับสน และอักษรย่อ หรือเครื่องหมายดังกล่าว มีที่มาจากคำว่า libra ในภาษาละตินสมัยกลาง ความจริงแล้ว คำว่า ลิบรา ก็คือ ตาชั่ง (คำเดียวกับที่เรียกกลุ่มดาวราศีตุล) สำหรับอักษร ?. นั้น ก็คือตัว L นั่นเอง (ใช้ได้ทั้งสองแบบ) ในตำราเก่าๆ บางครั้งเขียน l. เฉยๆ ก็มี
ส่วนชิลลิงนั้น เขาใช้อักษรย่อว่า s เฉย ๆ ตัวอักษรนี้ไม่ได้ย่อจาก shilling แต่มาจาก solidus ในภาษาละติน สำหรับหน่วยเล็กสุด คือ เพนนีนั้น ย่อเป็น d เพราะในภาษาละตินนั้น หน่วยเล็กสุดของค่าเงินคือ denarius เราจึงอาจพบการเขียนบอกจำนวนเงินเป็น 2l. 8s. 5d. นั่นคือ 2 ปอนด์ 8 ชิลลิง กับอีก 5 เพนนี
สำหรับเหรียญชิลลิงนั้น มีค่าเท่ากับ 12 เหรียญ เดิมเรียกว่าเทสทัน หรือเทสทูน (teston, testoon) เริ่มมีครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2047 มีการแกะสลักเป็นพระพักตร์ของพระเจ้าเฮนรีที่ 7 ครั้นในสมัยรัชกาลพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ก็ยังคงใช้เหรียญค่านี้ แต่เรียกใหม่ว่า ชิลลิง ส่วนที่มาของชื่อนั้น จริง ๆ แล้วยังไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่เข้าใจว่าเรียกตามเหรียญของพวกอังโกล-ซักซอน คือสคีลลิง (scilling, scylling) และบางรัฐของเยอรมนีก็มีการผลิตเหรียญกษาปณ์ที่เรียกว่า ชิลลิง (schilling) เหมือนกัน
ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2464 ค่าของชิลลิงเป็นแต่ชื่อเรียกเท่านั้น ไม่ได้มีการผลิตเหรียญเงินค่าชิลลิงออกมา และอีก 26 ปีต่อมา มีการผลิตเหรียญชิลลิง โดยใช้โลหะผสมระหว่างทองแดง และนิกเกิล เรียกว่าโลหะคิวโพรนิเกิล เมื่อถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 อังกฤษได้เปลี่ยนมาตราเงินแบบเทียบร้อยตามหลักสากล คือ 100 เพนนี เป็น 1 ปอนด์ โดยไม่ใช้หน่วยชิลลิงอีก ทำให้อักษรย่อชิลลิงจึงหมดไป อักษรย่อเพนนี เปลี่ยนจาก d เป็น p ซึ่งย่อมาจากคำว่าเพนนี (penny) โดยตรง
เศรษฐกิจ
ระบบเศษฐกิจของประเทศอังกฤษถือว่าเป็นระบบเศษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพราะค่าเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศนั้นสูงถึง 22,907 ยูโร เป็นประเทศที่เป็นผู้นำทางด้านเคมี เภสัชกรรมและเป็นอุตสาหกรรมหลักทางด้านเทคนิค โดยเฉพาะด้านยานอวกาศ อาวุธยุทโธปกรณ์และอุตสาหกรรมการผลิตซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ ณ กรุงลอนดอนยังเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญของสหราชอาณาจักรและใหญ่ที่สุดในยุโรปและยังเป็นศูนย์กลางการเงินที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปด้วย สำหรับผู้เดินทางมา เรียนต่อที่อังกฤษนั้น จะมีโอกาสได้ศึกษาและสัมผัสประสบการณ์ของระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง และมี Case Study ให้ศึกษามากมาย
การศึกษา
อังกฤษมีอัตราการอ่านออกเขียนได้ของประชากรสูงถึง 99% เป็นผลมาจากการให้ความสำคัญกับการศึกษาจากทางภาครัฐ ซึ่งการศึกษาภาคบังคับมีสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 5 ถึง 16 ปี
กระทรวงศึกษาธิการ คือหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการให้ความรู้ด้านการศึกษากับชาวอังกฤษจนถึงอายุ 19 ปี โดยเริ่มจากโรงเรียนสอนทักษะภาษาทั่วไปสำหรับเด็กเล็ก นอกจากนี้ก็ยังมีโรงเรียนสอนศาสนา หรือเริ่มขั้นพื้นฐานด้วยการศึกษาใน Church of England หรือ คาทอลิก
เมื่อเด็กอายุได้ 3-4 ปี จะเข้าเรียน ใน Nursery school เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการศึกษาในระดับ Primary School โดยการเรียนในช่วงนี้ จะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 4-11 ปี (เทียบได้กับระดับประถมศึกษาของไทย) หลังจากนั้นก็จะเรียนต่อในระดับ Secondary School ในช่วงอายุระหว่าง 11-16 ปี พร้อมเลือกว่า จะเรียนต่ออีก 2 ปี เพื่อเตรียมตัวเข้า Sixth form college (เป็นสถาบันที่เรียนเพื่อให้ได้ใบประกาศระดับ advanced school-level qualifications เช่น A-levels หรือ school-level qualifications เช่น GCSEs) หรือจะเลือกเข้าสอบ GSCE เพื่อศึกษาต่อในสถาบันแบบ Further education หรือเข้ามหาวิทยาลัยตามที่ต้องการเมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป
สำหรับการ เรียนต่ออังกฤษ ของนักศึกษาต่างชาติ ประเทศอังกฤษมีนโยบายสนับสนุนให้กับนักศึกษาที่มีความเหมาะสมและมีความตั้งใจศึกษาหาความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับการศึกษาขั้นสูง ซึ่งหากเรียนจบในหลักสูตรที่กำหนด จะสามารถขอวีซ่าเพื่อทำงานหรือทำธุรกิจในประเทศอังกฤษได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
กีฬา
ประเทศอังกฤษถือเป็นแหล่งกำเนิดของกีฬาหลายชนิด เช่น Football, Cricket, Rugby, Tennis, Badminton, Squash, Rounders, Hockey, Boxing, Snooker, Billiards, Darts, Table Tennis, Bowls, Netball, Thoroughbred Horse Racing แต่อย่างไรก็ตามกีฬาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอังกฤษและโลกนี้คือ Football (ฟุตบอล) หรือที่บางประเทศเรียกว่า Soccer
United Kingdom United Kingdom United Kingdom United Kingdom