เรียนต่ออเมริกา Hofstra University นิวยอร์ก เส้นทางเรียนต่ออเมริกา นิวยอร์ก สำหรับนักเรียนไทย

Hofstra University คือมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำด้านการวิจัย (Private Research University) ที่ตั้งอยู่ในย่านชานเมืองที่ปลอดภัยและมั่งคั่งของเกาะลองไอส์แลนด์ (Long Island) รัฐนิวยอร์ก ก่อตั้งขึ้นในปี 1935 โดยเริ่มแรกเป็นส่วนหนึ่งของ New York University (NYU) ก่อนจะแยกตัวเป็นสถาบันอิสระในปี 1937 มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีชื่อเสียงด้านสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักศึกษาได้ค้นคว้า ทดลอง และเติบโต โดยมีอัตราส่วนนักศึกษาต่ออาจารย์เพียง 13:1 ทำให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างใกล้ชิดและทั่วถึง

คำขวัญ (Motto): “I will uphold” (ฉันจะยืนหยัด)

วิสัยทัศน์ (Vision): นำนวัตกรรมมาสู่หลักสูตรการศึกษาและชุมชน เพื่อชี้นำนักศึกไปสู่อนาคตที่พวกเขาสามารถจินตนาการได้

พันธกิจ (Mission): เตรียมความพร้อมให้นักศึกษาประสบความสำเร็จในความซับซ้อนของชีวิตและการทำงานในสังคมโลก ผ่านการส่งเสริมชุมชนการเรียนรู้ที่หลากหลาย การสร้างงานวิจัยที่เป็นเลิศ และการมอบหลักสูตรการสอนคุณภาพสูง

ค่านิยมหลัก (Core Values): BELONGING (การเป็นส่วนหนึ่ง), COMMUNITY (ชุมชน), CREATIVITY (ความคิดสร้างสรรค์), DISCOVERY (การค้นพบ), INTEGRITY (ความซื่อสัตย์)

จุดเด่นและการรับรอง:

• ด้รับการรับรองวิทยฐานะระดับภูมิภาคโดย Middle States Commission on Higher Education (MSCHE)
• ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มี ผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ดีที่สุด 14% แรก ของสหรัฐอเมริกา (Payscale College ROI Report)
• คณะธุรกิจ Frank G. Zarb School of Business ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล AACSB ทั้งในหลักสูตรบริหารธุรกิจและการบัญชี (มีเพียง 5% ของสถาบันทั่วโลกที่ได้รับการรับรองนี้)
• คณะวิศวกรรมศาสตร์ Fred DeMatteis School of Engineering and Applied Science ได้รับการจัดอันดับสูงอย่างต่อเนื่อง (U.S. News & World Report)
• เป็นที่ตั้งของโรงเรียนแพทย์ Donald and Barbara Zucker School of Medicine และโรงเรียนกฎหมาย Maurice A. Deane School of Law

ทำเลที่ตั้ง (Location)

Hofstra University ตั้งอยู่ในเมืองเฮมป์สเตด (Hempstead) บนเกาะลองไอส์แลนด์ รัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นย่านชานเมืองขนาดใหญ่ (Large Suburb) ที่มีความปลอดภัยสูง สะดวกสบาย และเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว

• สภาพแวดล้อม: แคมปัสมีพื้นที่กว้างขวางถึง 244 เอเคอร์ (ประมาณ 617 ไร่) และได้รับการรับรองให้เป็น สวนรุกขชาติ (Arboretum) ที่สวยงาม มีอาคารเรียนและสิ่งอำนวยความสะดวกกว่า 117 แห่ง
• ความใกล้กับนิวยอร์กซิตี้: จุดแข็งที่สำคัญที่สุดคือทำเลที่ตั้ง อยู่ห่างจากใจกลางมหานครนิวยอร์ก (New York City) เพียง 25 ไมล์ (ประมาณ 40 กม.) นักศึกษาสามารถเดินทางเข้าเมืองได้อย่างง่ายดายเพื่อโอกาสในการฝึกงาน วัฒนธรรม และความบันเทิง
• การเดินทาง:
  • จากสนามบิน JFK (John F. Kennedy): เป็นสนามบินที่ใกล้ที่สุด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ชั่วโมง โดยนั่ง AirTrain ไปยังสถานี Jamaica ต่อรถไฟ Long Island Rail Road (LIRR) ไปยังสถานี Hempstead หรือ Mineola จากนั้นต่อรถชัทเทิลบัสของมหาวิทยาลัย
  • จากสนามบิน LGA (LaGuardia): ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.5 ชั่วโมงโดยระบบขนส่งสาธารณะ หรือประมาณ 30-45 นาทีโดยรถยนต์/แท็กซี่
  • การเดินทางในพื้นที่: มหาวิทยาลัยมีบริการรถชัทเทิลบัสฟรี (Hofstra Shuttle) รับส่งระหว่างสถานีรถไฟ หอพัก และอาคารเรียน รวมถึงมีรถบัสสำหรับไปซื้อของ (Shopping Shuttle) ในวันหยุดสุดสัปดาห์

ทำไมต้องเลือกเรียนต่ออเมริกา Hofstra University

Hofstra University คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่มองหาการศึกษาคุณภาพสูงในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย แต่ยังคงสามารถเข้าถึงโอกาสที่ไร้ขีดจำกัดของเมืองระดับโลกอย่างนิวยอร์กซิตี้

• ทำเลทอง (Prime Location): ได้ประโยชน์ทั้งจากแคมปัสชานเมืองที่ปลอดภัยและสวยงาม และการเข้าถึงใจกลาง NYC ได้อย่างง่ายดาย เพื่อโอกาสในการฝึกงาน (Internships) และการจ้างงาน
• การเรียนการสอนที่เข้มข้น (Academic Excellence): ด้วยอัตราส่วนนักศึกษาต่ออาจารย์เพียง 13:1 และขนาดคลาสเฉลี่ย 21 คน ทำให้มั่นใจได้ว่านักศึกษาจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ
• ผลตอบแทนการลงทุน (High ROI): บัณฑิตที่จบจาก Hofstra มีอัตราการจ้างงานสูงและได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า (Top 14% in USA for ROI)
• สถานีวิจัย R2 (Research Opportunities): นักศึกษามีโอกาสทำงานวิจัยร่วมกับอาจารย์ในหลากหลายสาขา ตั้งแต่ Cybersecurity ไปจนถึงการแพทย์
• ความหลากหลาย: มีนักศึกษาจากทั่วทั้ง 50 รัฐของอเมริกา และกว่า 88 ประเทศทั่วโลก

การดูแลนักเรียนนานาชาติ Hofstra University

• Hofstra มีแผนก International Enrollment ที่ทุ่มเทให้กับการดูแลนักเรียนต่างชาติตั้งแต่ก้าวแรก
• บริการด้านวีซ่าและตรวจคนเข้าเมือง: ช่วยเหลือในการออกเอกสาร I-20, ให้คำปรึกษาเรื่องการรักษาสถานะวีซ่า (F-1/J-1) และการสมัครทำงานหลังเรียนจบ (OPT/CPT)
• การปฐมนิเทศ (International Student Orientation): โปรแกรมภาคบังคับสำหรับนักเรียนใหม่ เพื่อปรับตัวด้านวิชาการ วัฒนธรรม และสังคม รวมถึงกฎระเบียบต่างๆ
• การให้คำปรึกษา: มีที่ปรึกษาเฉพาะทางสำหรับนักเรียนนานาชาติ คอยช่วยเหลือในทุกปัญหา ทั้งเรื่องการเรียน การใช้ชีวิต และความเครียด
• กิจกรรมและการปรับตัว: มีโปรแกรมและกิจกรรมมากมายที่ช่วยให้นักเรียนต่างชาติได้พบปะเพื่อนใหม่และปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมอเมริกัน

ด้านคุณภาพและความปลอดภัย Hofstra University

• ความปลอดภัย 24/7: กรมตำรวจและความปลอดภัยสาธารณะของ Hofstra (Department of Public Safety) ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง มีตู้โทรศัพท์ฉุกเฉิน (Blue Light Phones) ทั่วทั้งแคมปัส
• แอปพลิเคชัน Hofstra SAFE: แอปสำหรับแจ้งเหตุฉุกเฉินและรับการแจ้งเตือนความปลอดภัย
• บริการรถรับ-ส่งยามค่ำคืน (Night Shuttle): เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางกลับหอพักในเวลากลางคืน

ความมั่นใจสำหรับผู้ปกครอง: Hofstra University ให้ความสำคัญสูงสุดกับความสำเร็จและความปลอดภัยของบุตรหลานของท่าน ด้วยสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่สนับสนุน (Supportive Environment) การดูแลที่ใกล้ชิดจากอาจารย์ และระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง ในขณะเดียวกัน บุตรหลานของท่านจะได้รับโอกาสในการฝึกงานและสร้างเครือข่ายวิชาชีพที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง (นิวยอร์กซิตี้)

หลักสูตรที่เปิดสอนที่ Hofstra University

Hofstra มีหลักสูตรให้เลือกเรียนกว่า 170 หลักสูตรในระดับปริญญาตรี และกว่า 200 หลักสูตรในระดับบัณฑิตศึกษา โดยแบ่งตามคณะวิชาหลักดังนี้:

คลิกเพื่อตรวจสอบหลักสูตรเพิ่มเติม 

เงื่อนไขการรับสมัคร (Admission Requirements)

Hofstra มีกระบวนการพิจารณาแบบองค์รวม (Holistic Review) โดยพิจารณาทั้งผลการเรียน กิจกรรม และความสามารถด้านภาษา

• คุณสมบัติของผู้สมัคร
  • ปริญญาตรี (Undergraduate): จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 (หรือเทียบเท่า) พร้อมผลการเรียน (Transcript)
  • บัณฑิตศึกษา (Graduate): จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้วยเกรดเฉลี่ย (GPA) โดยทั่วไป 3.0 ขึ้นไป (บางหลักสูตรอาจต้องการ 3.2)
• ผลสอบภาษาอังกฤษขั้นต่ำ (English Proficiency)
  • IELTS: 6.5
  • TOEFL iBT: 80
  • Duolingo English Test: 120
  • PTE: 53
  • (หมายเหตุ: บางหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาอาจต้องการคะแนนสูงกว่านี้)
• เอกสารที่ใช้สมัคร (Application Documents)
  • ปริญญาตรี:
    1. ใบสมัคร (Common Application หรือ Hofstra Application)
    2. ค่าสมัคร (Application Fee) ประมาณ $70
    3. ใบรับรองผลการเรียน (Official Transcript)
    4. ผลคะแนนภาษาอังกฤษ
    5. (ไม่บังคับ แต่แนะนำ) SAT/ACT, Letter of Recommendation, Personal Essay
    6. เอกสารรับรองทางการเงิน (Bank Statement) (เพื่อใช้ในการออก I-20)
  • บัณฑิตศึกษา:
    1. ใบสมัครออนไลน์ (Hofstra Graduate Application)
    2. ค่าสมัคร (Application Fee) ประมาณ $75
    3. ใบรับรองผลการเรียน (Official Transcript) จากทุกสถาบัน
    4. ผลคะแนนภาษาอังกฤษ
    5. ผลคะแนน GMAT หรือ GRE (ขึ้นอยู่กับหลักสูตร ส่วนใหญ่ MBA/Business ต้องการ)
    6. จดหมายแนะนำ (Letters of Recommendation) 2-3 ฉบับ
    7. Resume หรือ CV
    8. Statement of Purpose (SoP) หรือ Personal Essay
    9. เอกสารรับรองทางการเงิน (Bank Statement)

ระยะเวลาเปิดรับ (Intake Periods / Deadline)

• ปริญญาตรี
  • Fall (สิงหาคม)
    • Early Action I: 15 พฤศจิกายน
    • Early Action II: 15 ธันวาคม
    • Rolling Admission: เปิดรับไปเรื่อยๆ (แนะนำให้สมัครก่อน 1 พฤษภาคม)
  • Spring (มกราคม)
    • Rolling Admission: (แนะนำให้สมัครก่อน 15 พฤศจิกายน)
• บัณฑิตศึกษา
  • กำหนดการจะแตกต่างกันไปในแต่ละหลักสูตร ส่วนใหญ่เป็นแบบ Rolling Admission (สมัครก่อนมีสิทธิ์ก่อน) แนะนำให้ตรวจสอบกับเว็บไซต์ของคณะโดยตรง (เช่น MBA อาจมีรอบ Early/Preferred)

ค่าใช้จ่ายและทุนการศึกษา (Tuition & Scholarships)

ทุนการศึกษา (Scholarships)

• ทุนสำหรับนักเรียนนานาชาติ (International Student Scholarships): Hofstra มีนโยบายมอบทุนการศึกษาแบบ พิจารณาอัตโนมัติ (Automatic Consideration) ให้กับนักเรียนนานาชาติที่มีผลการเรียนดี ไม่จำเป็นต้องสมัครทุนแยก
• ระดับปริญญาตรี: ทุนการศึกษามีมูลค่าสูงถึง $30,000 ต่อปี (ขึ้นอยู่กับผลการเรียน GPA และผลสอบ)
• ระดับบัณฑิตศึกษา: มีทุนการศึกษา “Dean’s Scholarships” หรือ “Graduate Scholarships” มอบให้ตามคุณสมบัติ (เช่น GPA, GMAT/GRE) มูลค่าแตกต่างกันไปในแต่ละคณะ

หมายเหตุ: ติดต่อ ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่อสอบถามราคาปัจจุบันและทุนการศึกษา รวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าลงทะเบียน ค่าหนังสือ และค่าประกันสุขภาพ

สิ่งอำนวยความสะดวก (Facilities & Campus Life)

Hofstra มีสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่

อาคารเรียนและห้องปฏิบัติการ

• Axinn Library: ห้องสมุดกลางขนาดใหญ่ที่มีทรัพยากรวิจัยกว่าล้านรายการ พื้นที่อ่านหนังสือ 24/7 และศูนย์สนับสนุนการเรียน
• Bloomberg Trading Room: ห้องค้าหุ้นจำลองพร้อมจอ Bloomberg 34 เทอร์มินัล สำหรับนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ
• Cybersecurity Innovation and Research Center: ศูนย์วิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ทันสมัย
• DeMatteis School Labs: ห้องปฏิบัติการวิศวกรรมเฉพาะทาง (เช่น 3D Printing, Robotics, Bioengineering)
• The Lawrence Herbert School of Communication: เพียบพร้อมด้วยสตูดิโอทีวี, สถานีวิทยุ WRHU-FM (ที่ได้รับรางวัลระดับประเทศ), และสตูดิโอตัดต่อภาพยนตร์

ศูนย์กีฬาและนันทนาการ

• David S. Mack Sports and Exhibition Complex: สนามกีฬาในร่มขนาดใหญ่สำหรับบาสเกตบอลและกิจกรรมต่างๆ
• David S. Mack Fitness Center: ศูนย์ฟิตเนสขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ทันสมัย สระว่ายน้ำ และคลาสออกกำลังกาย
• James M. Shuart Stadium: สนามกีฬากลางแจ้งสำหรับอเมริกันฟุตบอลและลาครอส

ที่พักนักเรียน (Accommodation)

• หอพักใน (Residence Halls): มีหอพักกว่า 35 แห่งในแคมปัส มีหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ห้องพักคู่, ห้องสวีท (Suites), ไปจนถึงอพาร์ตเมนต์สำหรับนักศึกษา ป.โท/เอก
• ความปลอดภัย: หอพักทุกแห่งมีระบบรักษาความปลอดภัยและการเข้า-ออกด้วยคีย์การ์ดตลอด 24 ชั่วโมง

การสนับสนุนนักเรียน (Student Support)

• Student Health Services: ศูนย์สุขภาพและคลินิกในมหาวิทยาลัย
• Counseling and Mental Health Services: บริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตฟรีสำหรับนักศึกษา
• Center for Academic Excellence: ศูนย์ช่วยเหลือด้านวิชาการ การติว และการเขียน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q1: นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานระหว่างเรียนได้หรือไม่? A1: ได้ นักเรียนต่างชาติที่ถือวีซ่า F-1 สามารถทำงานพิเศษ ในแคมปัส (On-Campus) ได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ระหว่างเปิดภาคเรียน และเต็มเวลาในช่วงปิดเทอม นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการฝึกงาน (CPT) หรือทำงานหลังเรียนจบ (OPT) ตามเงื่อนไขของหลักสูตรและวีซ่า

Q2: จำเป็นต้องมีรถยนต์หรือไม่? A2: ไม่จำเป็น Hofstra มีระบบรถชัทเทิลบัสฟรีที่วิ่งทั่วทั้งแคมปัสและไปยังสถานีรถไฟ LIRR เพื่อเข้าเมืองนิวยอร์ก นอกจากนี้ยังมีรถบัสสำหรับไปซื้อของในวันหยุดสุดสัปดาห์

Q3: การรับสมัครเข้ายากหรือไม่? A3: Hofstra มีกระบวนการคัดเลือกที่ค่อนข้างแข่งขัน (Acceptance Rate อยู่ที่ประมาณ 69-71%) โดยจะพิจารณาแบบองค์รวม (Holistic) ไม่ได้ดูแค่เกรดเฉลี่ย แต่ยังรวมถึงกิจกรรม ความสามารถพิเศษ และเรียงความ (Essay)

Q4: นักเรียน ป.ตรี ปี 1 จำเป็นต้องอยู่หอพักในหรือไม่? A4: ไม่บังคับ แต่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง (Strongly Recommended) การอยู่หอพักในปีแรกช่วยให้นักศึกษาปรับตัวเข้ากับชีวิตมหาวิทยาลัย หาเพื่อนใหม่ และเข้าถึงทรัพยากรในแคมปัสได้ง่ายกว่า

Q5: หลักสูตรไหนที่โดดเด่นที่สุด? A5: Hofstra มีชื่อเสียงในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริหารธุรกิจ (Business) (การเงิน, การตลาด, บัญชี), วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering), นิเทศศาสตร์ (Communication) (โดยเฉพาะ Journalism และ Film), และหลักสูตรสาย วิทยาศาสตร์สุขภาพ (Health Sciences)

เว็บไซต์ทางการ (Official Website): https://www.hofstra.edu

มหาวิทยาลัยที่น่าสนใจเพิ่มเติม: https://thebest-edu.com/study-abroad/