Power Speaking (General English)

• จุดเด่น: เป็นหลักสูตรทั่วไปที่เน้นการพูดและเป็นแบบ output-centered ประกอบด้วย 4 คาบ one-on-one และ 2 คาบ group lessons รวม 6 คาบต่อวัน

• ตารางเรียน: 6 คาบต่อวัน คาบละ 50 นาที ช่วงเวลา 8:00-12:00 และ 13:00-16:50

• เหมาะสำหรับ: ผู้เรียนระดับเริ่มต้นถึงขั้นสูง อายุ 14 ปีขึ้นไป 

Intensive Power Speaking Course

• จุดเด่น: 5 คาบ one-on-one และ 2 คาบ group lessons รวม 7 คาบต่อวัน เน้นการพัฒนาอย่างเข้มข้น
• ตารางเรียน: 7 คาบต่อวัน คาบละ 50 นาที

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็ว

Ultra 7 Power Speaking

• จุดเด่น: 8 คาบต่อวัน เน้นการเรียนอย่างเข้มข้นที่สุด

• ตารางเรียน: 8 คาบต่อวัน คาบละ 50 นาที

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วในระยะเวลาสั้น

Family Package Course

• จุดเด่น: แพ็คเกจครอบครัว 2-4 คน สามารถแชร์คาบ one-on-one ได้ ผู้ใหญ่ 15 ปีขึ้นไป เรียน Power Speaking เด็ก 5-14 ปี เรียน Kids/Junior English 

• ตารางเรียน: แบ่งคาบตามอัตราส่วนที่ครอบครัวต้องการ

• เหมาะสำหรับ: ครอบครัวที่ต้องการเรียนร่วมกัน อย่างน้อย 2 คน และต้องพักห้องเดียวกัน 

Kids English (5-11 ปี)

• จุดเด่น: หลักสูตรสำหรับเด็ก 5-11 ปี เน้นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมและเพลง เป็น one-on-one เท่านั้น

• ตารางเรียน: 7 คาบต่อวัน one-on-one

• เหมาะสำหรับ: เด็กอายุ 5-11 ปี ที่ต้องการพัฒนาพื้นฐานการสื่อสารภาษาอังกฤษ

Junior Power Speaking (12-14 ปี)

• จุดเด่น: หลักสูตรสำหรับวัยรุ่น 12-14 ปี เน้นการฝึกใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่างๆ ของชีวิตประจำวัน 

• ตารางเรียน: 7 คาบต่อวัน one-on-one

• เหมาะสำหรับ: วัยรุ่นที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษแล้วและต้องการพัฒนาทักษะ

TOEIC Intensive Course

• จุดเด่น: สำหรับผู้ที่มีคะแนน TOEIC 400+ เรียนได้ตั้งแต่ 1 สัปดาห์ มี e-Learning และ mock tests

• ตารางเรียน: 25 คาบ one-on-one + 10 คาบ group ต่อสัปดาห์

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเพิ่มคะแนน TOEIC สำหรับการทำงานหรือศึกษาต่อ

TOEIC Ultra 8 Course

• จุดเด่น: เน้น TOEIC เต็มที่ทั้ง 8 คาบ เป็น one-on-one ทั้งหมด มีการจัดการ self-study

• ตารางเรียน: 40 คาบ one-on-one ต่อสัปดาห์

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีประสบการณ์ TOEIC และต้องการปรับปรุงจุดอ่อนเฉพาะ

IELTS Intensive Course

• จุดเด่น: สำหรับผู้ที่มีคะแนน IELTS 3.0+ เรียนได้ตั้งแต่ 1 สัปดาห์ มีทีมผู้เชี่ยวชาญ IELTS เฉพาะ 

• ตารางเรียน: 5 คาบ one-on-one IELTS + 2 คาบ group General English

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการศึกษาต่อหรือย้ายถิ่นฐานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ

IELTS Ultra 8 Course

• จุดเด่น: เน้น IELTS เต็มที่ทั้ง 8 คาบ one-on-one เพื่อปรับปรุงคะแนนและเสริมจุดอ่อน

• ตารางเรียน: 8 คาบ one-on-one IELTS ต่อวัน

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเพิ่ม band score IELTS อย่างเข้มข้น

Eiken Intensive Course

• จุดเด่น: มีทุกระดับตั้งแต่ 3 เกรด Pre-2 เกรด 2 เกรด และ Pre-1 เกรด รวมถึงฝึกสัมภาษณ์สำหรับข้อสอบที่สอง 

• ตารางเรียน: 5 คาบ one-on-one Eiken + 2 คาบ group General English

• เหมาะสำหรับ: นักเรียนญี่ปุ่นที่ต้องการสอบ Eiken

Eiken Ultra 8 Course

• จุดเด่น: เน้น Eiken เต็มที่ทั้ง 8 คาบ one-on-one เพื่อเสริมจุดอ่อนและปรับปรุงระดับ

• ตารางเรียน: 8 คาบ one-on-one Eiken ต่อวัน

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีเป้าหมาย Eiken ระดับ 3 ถึงระดับ 1

Business English Course

• จุดเด่น: เรียนการสื่อสารที่ถูกต้องในสถานการณ์ธุรกิจ การสื่อสารความคิดเห็นและผลิตภัณฑ์ การตอบสนองอย่างยืดหยุ่น

• ตารางเรียน: รวม Business English และ General English

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการทำงานกับบริษัทต่างชาติหรือใช้ภาษาอังกฤษในงาน

Ultra 7 Business English Course

• จุดเด่น: สำหรับผู้ที่เรียน Business English มาระดับหนึ่งแล้ว 

• ตารางเรียน: เน้น Business English อย่างเข้มข้น

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีพื้นฐาน Business English และต้องการพัฒนาต่อ

CELTA Course

• จุดเด่น: คุณวุฒิการสอนภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก สำหรับระดับ CEFR C2+ 

• ตารางเรียน: หลักสูตรเต็มเวลาสำหรับการฝึกอบรมครู

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษมืออาชีพ

English Plus Course (Internship)

• จุดเด่น: โปรแกรมที่ให้เข้าร่วม online internships กับบริษัทตะวันตกในยุโรป อินเดีย และ internships ที่ NGO โรงเรียน และบริษัทในเซบู 

• ตารางเรียน: รวม General English Course + Internship

• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการประสบการณ์การทำงานระหว่างเรียน

เงื่อนไขการรับสมัคร

คุณสมบัติทั่วไป

• อายุ: นักเรียนต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป (สำหรับหลักสูตรทั่วไป)
• สุขภาพ: ควรมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง

เงื่อนไขสำหรับนักเรียน (Junior)

• ช่วงอายุ: โดยทั่วไปแล้วหลักสูตรสำหรับเด็กและเยาวชนจะรับนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 4-15 ปี บางสถาบันอาจขยายช่วงอายุไปถึง 17 ปี แต่ในกรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี อาจมีข้อกำหนดเพิ่มเติมที่เคร่งครัดกว่า
• การเดินทาง: นักเรียนที่อายุต่ำกว่า 15 ปีจำเป็นต้องมีผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเดินทางและพักอาศัยอยู่ด้วยตลอดระยะเวลาที่เรียน ซึ่งเป็นกฎข้อบังคับที่สำคัญมาก แต่สำหรับนักเรียนที่อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป บางสถาบันอาจอนุญาตให้เดินทางคนเดียวได้

เงื่อนไขสำหรับผู้ปกครอง (Family)

• การเข้าพัก: โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ปกครองจะต้องพักในห้องพักเดียวกันกับบุตรหลานที่ลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรนี้
• หลักสูตรการเรียน: ผู้ปกครองสามารถเลือกเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษที่หลากหลายได้ตามความสนใจ เช่น หลักสูตร General English หรือ Power Speaking ซึ่งจะมีการเรียนแบบตัวต่อตัวและแบบกลุ่มเช่นเดียวกับนักเรียนทั่วไป

เงื่อนไขเพิ่มเติม

• การเข้าพักและตารางเรียน: โดยทั่วไปแล้ว ทั้งครอบครัวจะต้องมีตารางเรียนและเข้าพักร่วมกันในห้องเดียวกัน
• ระดับภาษา: ไม่มีข้อกำหนดเรื่องระดับภาษาเริ่มต้น นักเรียนสามารถเข้าเรียนได้ตั้งแต่ระดับ Beginner (พื้นฐาน) เนื่องจากหลักสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อปูพื้นฐานภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ

เอกสารประกอบการสมัคร:

• หนังสือเดินทาง (Passport): ต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทาง
• รูปถ่าย: รูปถ่ายหน้าตรงขนาดตามที่กำหนด (โดยปกติจะใช้ในการทำวีซ่านักเรียน)
• แบบฟอร์มการสมัคร: กรอกข้อมูลส่วนตัวและรายละเอียดการเรียนให้ครบถ้วน

เงื่อนไขการรับนักเรียนต่างชาติ:

• วีซ่า: สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเรียนหลักสูตรภาษาที่มีระยะเวลานานกว่า 31 วัน จะต้องยื่นขอ Special Study Permit (SSP) ซึ่งเป็นใบอนุญาตเรียนภาษาในประเทศฟิลิปปินส์ สถาบันจะเป็นผู้ดำเนินการให้

เงื่อนไขเฉพาะสำหรับนักเรียนที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ:

• ระดับภาษา: หากนักเรียนต้องการเรียนในหลักสูตรเตรียมสอบ เช่น IELTS หรือ TOEIC อาจต้องเข้ารับการทดสอบวัดระดับภาษาเบื้องต้นก่อน เพื่อให้สถาบันสามารถจัดชั้นเรียนและหลักสูตรที่เหมาะสมให้ได้
• ความต้องการพิเศษ: นักเรียนควรแจ้งความต้องการพิเศษหรือเป้าหมายในการเรียนให้ชัดเจน เพื่อที่สถาบันจะสามารถออกแบบการเรียนการสอนและตารางเวลาให้สอดคล้องกับเป้าหมายการไปศึกษาต่อในอนาคต