ท่องเที่ยวออสเตรเลีย
ออสเตรเลีย มีชื่อประเทศอย่างเป็นทางการว่า “เครือรัฐออสเตรเลีย” (Commonwealth Australia) ออสเตรเลียเคยเป็นประเทศอาณานิคมของอังกฤษมาก่อน ปัจจุบันออสเตรเลียเป็นประเทศในจักรภพที่ตั้งประเทศอยู่บนเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก และในขณะเดียวกันออสเตรเลีย ก็เป็นทวีปทีเล็กที่สุดในโลกด้วยออสเตรเลียเป็นประเทศ “ใหม่” แม้จะมีประวัติความเป็นมาในการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ที่ไม่ยาวนาน ไม่มี ร่องรอยอารยธรรมโบราณที่เป็นรากเหง้าของอารยธรรมโลก แต่ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง มีธรรมชาติสวยงาม หลากหลาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าไปเยือน มีเสน่ห์อย่างยิ่งด้วยความ มีน้ำใจและความเป็นกันเองของคนออสเตรเลียกับความสวยบริสุทธิ์ของธรรมชาติ หากสนใจท่องเที่ยวออสเตรเลีย บทความนี้จะให้คำตอบกับคุณ
ท่องเที่ยวออสเตรเลีย สภาพภูมิอากาศเป็นอย่างไร?
สภาพภูมิอากาศของออสเตรเลียแตกต่างกันในแต่ละรัฐ สภาพอากาศทั่วไปจะเป็นแบบเขตร้อนจนถึงเขตอบอุ่น อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่รัฐทัสมาเนีย (Tasmania) ประมาณ 0-12 องศาเซลเซียส และร้อนสุดที่มณฑลตอนเหนือประมาณ 33-34 องศาเซลเซียส
- ฤดูใบไม้ผลิ กันยายน-พฤศจิกายน อากาศดี ดอกไม้บานสวยงาม
- ฤดูร้อน ธันวาคม-กุมภาพันธ์ อากาศร้อนและแห้งแล้ง บางแห่งร้อนจัดและอาจมีไฟป่า
- ฤดูใบไม้ร่วง มีนาคม-พฤษภาคม อากาศเริ่มเย็นลง ตามเมืองชายฝั่งทางตอนใต้และเมืองในเขตป่า ฝนจะตกชุก บางแห่งอาจมีน้ำท่วม
- ฤดูหนาว มิถุนายน-สิงหาคม อากาศเย็นจัดมีหิมะตกบนเขตภูเขาสูงโดยทั่วไป
ออสเตรเลียใช้ภาษาอะไร?
ในออสเตรเลียใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ
ออสเตรเลียใช้สกุลเงินอะไร?
ออสเตรเลียใช้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) โดย 1 ดอลลาร์ออสเตรเลียจะมีค่าเท่ากับ 100 เซ็นต์ และมีการแบ่งค่าของเงินดังนี้ คือ ค่าของธนบัตรมีแบบใบละ 5, 20, 50 และ 100 ดอลลาร์ ส่วนเหรียญที่ใช้ จะมี 2 แบบคือเหรียญทอง จะมีเหรียญละ 1 ดอลลาร์ และ 2 ดอลลาร์ ส่วนเหรียญเงินจะมีแบบเหรียญละ 5, 10, 20 และ 50 เซ็นต์ ซึ่งมีอัตราแลกเปลี่ยนกับเงินบาทไทยอยู่ที่ประมาณ 1AUD ต่อ 22-25 บาท (กันยายน ค.ศ. 2020)
อาหารท้องถิ่น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรม การกินของชาวออสเตรเลียนอย่างแท้จริง แนะนำให้ไปลองชิม อาหารพื้นเมืองออสเตรเลียขนานแท้ ได้แก่ Shepherd Pie หรือจะเป็นอาหารจานโปรดของชาวออสซี่ เช่น Vegemite ถ้าเอ่ยถึงของหวานก็จะเป็น Lamington หรือ Lemmington ขนมหวานออสเตรเลียนที่ใครได้ลองเป็นต้องติดใจไปทุกราย ซึ่งนิยมทานกับน้ำชาหรือกาแฟยามบ่าย ทั้งหมดนี้ ท่านสามารถลิ้มลองได้จากร้านอาหารของโรงแรมในออสเตรเลีย ที่ท่านไปพัก นอกจากนี้ ในออสเตรเลียยังมีภัตตาคาร และร้านอาหารไทยอยู่มากมายตามเมืองต่างๆ เพราะมีชาวไทยไปเรียน และไปทำงานกันมาก
สถานที่ท่องเที่ยวออสเตรเลีย
ท่องเที่ยวซิดนีย์ (Sydney)
ซิดนีย์ นครแห่งอ่าวที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลีย และเมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ดื่มด่ำกับความงามของท่าเรือซิดนีย์ วิถีชีวิตกลางแจ้งอันเย้ายวนใจ และความงามของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ พายเรือคายัคผ่านใต้สะพานอ่าวซิดนีย์ หรือโบกมือทักทายโอเปร่าเฮาส์ขณะนั่งเรือข้ามอ่าวไปยังเขต Manly เรียนวิธีเล่นเซิร์ฟที่หาดบอนไดหรือแหวกว่ายในแหล่งน้ำอันเงียบสงบของ Coogee เพลินกับย่าน The Rocks บนถนนทางตันที่ปูด้วยหิน หรือในตลาด ร้านบูติก คาเฟ่และผับของ Paddington นอกเหนือจากท่าเรือที่มีชื่อเสียงระดับโลก และชายหาดที่มีชีวิตชีวามากกว่า 70 แห่ง ซิดนีย์ยังมีอาหารรสเลิศ งานเทศกาลและความสนุกสนานตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีวันหยุด
ท่องเที่ยวรอบๆ ซิดนีย์ เทือกเขาบลูเมาท์เทน Blue Mountains มรดกโลก และเส้นทางเดินป่า Six Foot Track การเดินทางจากซิดนีย์ที่ผ่านทิวทัศน์อันงดงาม ขับรถขึ้นเหนือไปตามถนนสายท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งแปซิฟิกสู่บริสเบน ผ่าน Hunter Valley, Port Stephens และอ่าว Byron Bay ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ หรือมุ่งหน้าลงใต้ไปเมลเบิร์นผ่านหาดทรายขาวบริสุทธิ์ของ Jervis Bay สามารถเดินทางเที่ยวเมลเบิร์นผ่าน ถนน Great Ocean และ Red Centre หรือ Hunter Valley ที่มีหาดทรายที่งามระยับของซิดนีย์ เส้นทางเดิน Bondi to Bronte และการแข่งขันเรือยอชต์ประจำปีจากซิดนีย์ไปยังเมืองโฮบาร์ต
ท่องเที่ยวเมลเบิร์น (Melbourne)
เมลเบิร์น เมืองหลวงของรัฐวิกตอเรียเมืองที่ถูกจัดเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกหลายปีซ้อนติดต่อกัน เมืองที่เต็มไปด้วยถนนซอยที่เร้นลับ บาร์ที่มีผู้คนเนืองแน่น ภัตตาคารหรู และร้านบูติกที่ซ่อนตัวอยู่ตามที่ต่าง ๆ ที่นี่คุณสามารถซึมซับกับวัฒนธรรม สนุกกับกีฬา ลิ้มรสอาหารและไวน์ในบรรยากาศอันมีชีวิตชีวา เต้นรำจนตะวันเบิกฟ้า หรือเดินเที่ยวไปตามสวนสาธารณะและถนนอันร่มครึ้ม แวะเยือน Federation Square สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของเมือง และเพลิดเพลินกับการดื่มเบียร์ยามพลบค่ำที่ถนน St Kilda เดินช้อปปิ้งบนถนน Brunswick ที่เต็มไปด้วยเสียงเพลง หรือซื้อหาสินค้ามีระดับในย่าน Chapel Street สำรวจคาเฟ่ ร้านอาหารขนาดเล็กและบาร์ของเซาท์แบงก์ ก่อนตระเวนชิมอาหารจากทั่วโลกในเมือง Carlton, Richmond และ Fitzroy ใช้เส้นทาง Aboriginal Heritage Walk ผ่านสวนพฤกษศาสตร์ Royal Botanic Gardens และร่วมส่งเสียงเชียร์กับคนอื่น ๆ ภายในสนามกีฬา Melbourne Cricket Ground
การเดินทางท่องเที่ยวในรัฐวิกตอเรีย สามารถเดินทางได้จากเมลเบิร์น และการไปถึงที่นั่นด้วยความประทับใจ ขับรถไปตามถนน Great Ocean Road สู่เสาหิน Twelve Apostles และหาดเล่นเซิร์ฟระดับโลกของรัฐวิกตอเรีย ทดสอบสมรรถภาพของคุณบนเส้นทางภูเขา Great Alpine Walk หรือขับรถไปตามถนน Great Alpine ผ่านเข้าสู่เทือกเขา Australian Alps และเขต Gippsland เรียนรู้เกี่ยวกับเมืองอื่น ๆ ของออสเตรเลียเพื่อวางแผนให้กับวันพักผ่อนที่เหลือของคุณ จากเมลเบิร์น คุณอาจบินหรือโดยสารเรือข้ามฟากไปยังแทสเมเนีย ขับรถไปตามเส้นทางเลียบฝั่งแปซิฟิก ที่มุ่งหน้าไปซิดนีย์ หรือตามถนน Great Ocean Road สู่เมืองแอดิเลด ท้ายที่สุด จัดตารางการเดินทางไปเมลเบิร์นให้ตรงกับช่วงที่มีงานสำคัญของเมือง เช่น การแข่งรถ Australian Grand Prix, ศึกเทนนิส Australian Open Tennis หรือ ศึกลูกหนัง Melbourne Cup
ท่องเที่ยวบริสเบน (Brisbane)
เมืองหลวงในเขตกึ่งร้อนของรัฐควีนส์แลนด์ สามารถพักผ่อนอย่างสบายอารมณ์ในสวนเขียวขจีริมน้ำของเซาท์แบงก์ เที่ยวชมตลาด และว่ายน้ำในลากูน ขี่จักรยานในสวน City Botanic Gardens และโรยตัวจากหน้าผาที่ Kangaroo Point เที่ยวไปตามลำน้ำในเรือกลไฟที่สง่างาม หรือขึ้นเรือข้ามฟากความเร็วสูงสู่หมู่บ้านที่มีชีวิตชีวาในเขตกลางเมืองอย่าง Bulimba และ New Farm หากต้องการชมงานศิลปะ คุณสามารถแวะเยือนหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ชมการแสดงของคณะบัลเลต์ Queensland Ballet การแสดงเพลงโอเปร่า หรือวงดนตรีออเคสตร้า หรือชมละครแนวใหม่ในศูนย์ศิลปะ Powerhouse ที่ศูนย์ท่าเรือของอ่าวและเกาะ Moreton คุณสามารถว่ายน้ำ พายคายัคในทะเล ดำชมปะการังน้ำตื้น เล่นเลื่อนไถลลงเนินทรายที่สูงที่สุดในโลก เช่าเรือใบเล่น หรือต่อกรกับปลามาร์ลิน
ท่องเที่ยวโกลด์โคสต์ (Gold Coast)
โกลด์โคสต์ของออสเตรเลียเป็นเมืองอันทันสมัยที่เต็มไปด้วยอาคารสูงระยับรอบ ๆ หาดที่สวยงาม รวมถึงหาดที่ได้รับการขนานนามว่า ‘Surfers Paradise’ (สวรรค์ของนักโต้คลื่น) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่หกของออสเตรเลีย และเป็นอันดับสองของรัฐควีนส์แลนด์ โกลโคสต์เป็นแหล่งกำเนิดของ ‘บิกินี’ พร้อมด้วยหาดทรายสีทองไกลสุดลูกหูลูกตา สวนสนุกระดับโลกมากมาย ร้านบูติกเสื้อผ้าของดีไซเนอร์ สถานบริการสปาสุดหรู สนามกอล์ฟระดับโลก ตลอดจนร้านอาหารระดับแชมป์ บาร์เปี่ยมรสนิยม และไนต์คลับที่มีชีวิตชีวา เล่าลือกันอย่างต่อเนื่องถึงเทศกาลและงานต่าง ๆ ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบทุก ๆ เดือนของปี ซึ่งมีการแสดงความสามารถทางกีฬาที่ยอดเยี่ยมของออสเตรเลีย นอกจากนี้ โกลด์โคสต์ยังเป็นประตูสู่บางส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่ดีที่สุดของรัฐควีนส์แลนด์ ชมวาฬ เที่ยวไปตามเกาะต่าง ๆ และเรียนรู้วัฒนธรรมอะบอริจินในพื้นที่ เมื่อเดินทางไปทางตะวันตก คุณจะพบกับหนึ่งในภูมิภาคที่มีความหลากหลายทางชีววิทยามากที่สุดในออสเตรเลีย เขตชนบทที่ปกคลุมด้วยป่าฝนอันอุดมสมบูรณ์พร้อมด้วยอุทยานแห่งชาติที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เช่น Lamington, Border Ranges, Main Range และ Nightcap
ท่องเที่ยวเพิร์ท (Perth)
นครหลวงทางทิศตะวันตกสุดของออสเตรเลียแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำสวอน ล้อมรอบด้วยชายหาดริมฝั่งมหาสมุทรอินเดียและไร่องุ่นใน Swan Valley พื้นที่โดยรอบ นับจากสวนสาธารณะ Kings Park อันเขียวขจีและชายหาดที่เงียบสงบ ไปจนถึงท่าเรือ Fremantle อันเปี่ยมเสน่ห์ และเกาะ Rottnest ที่อยู่ใกล้เคียง ห่างจากเพิร์ทไป 30 นาที คุณสามารถท่องเที่ยวในไร่องุ่นระดับโลกใน Swan Valley ล่องเรือในแม่น้ำ Swan ผ่านสวนและอาคารสูงเสียดฟ้า หรือเพลิดเพลินไปกับอาทิตย์อัสดงที่ชายหาดแสนอัศจรรย์ นั่งเรือข้ามฟากไปยังเกาะ Rottnest ที่ปราศจากรถยนต์ ที่ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ขี่จักรยานไปยังหาดต่าง ๆ 63 หาด และพายเรือคายักไปยังอ่าวที่เงียบสงบกว่า 20 อ่าว รับประทานอาหารใน Fremantle และรื่นรมย์ไปกับคาเฟ่ อันมีชีวิตชีวาซึ่งมีทิวทัศน์ของท่าเรือในศตวรรษที่ 19 ที่มีการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้คุณยังมั่นใจได้ว่าคุณจะได้ร่วมการเดินเรือที่น่าจดจำและดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์เกี่ยวกับนักโทษ Freemantle สำรวจสวนสาธารณะ Kings และชื่นชมไปกับจุดชมวิว สวนที่จัดภูมิทัศน์ไว้อย่างสวยงาม ตลอดจนมรดกอันทรงค่าของชนเผ่าอะบอริจิน ว่ายน้ำ โต้คลื่น ตกปลา เล่นวินด์เซิร์ฟ และแล่นเรือใบในหาดที่ไม่มีผู้คนหนาแน่นและสะอาดที่มีให้เลือกถึง 19 หาดที่ Sunshine Coast ในเมืองเพิร์ทจาก Cottlesloe ไปจนถึง Scarborough
สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียที่ท่านสามารถเดินทางไปได้จากเมืองเพิร์ท ขับรถลงใต้สู่ดินแดนแห่งโรงบ่มไวน์ เกลียวคลื่น ป่าสูงและหมู่ถ้ำแห่งเมือง Margaret River หรือขึ้นเหนือสู่ Monkey Mia และ Ningaloo Reef ไกลออกไปในท้องทุ่ง พบกับภูมิทัศน์อันกว้างใหญ่ของดินแดนชนบทห่างไกลแห่งคิมเบอร์ลีย์ และเมืองประวัติศาสตร์ในยุคตื่นทองอย่าง Kalgoorlie ท่องไปกับการเดินทางที่น่าจดจำตลอดการท่องเที่ยวจากเพิร์ทและทั่วภาคพื้นทวีป
ท่องเที่ยวแอดิเลด (Adelaide)
แอดิเลด นครหลวงงามสง่าและแหล่งวัฒนธรรมของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย เมืองอันสง่างามแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของสถาปัตยกรรมหินยุคอาณานิคม สวนธรรมชาติอันกว้างใหญ่ งานเทศกาลที่มีชีวิตชีวา และการใช้พื้นที่ได้อย่างน่าทึ่ง สำรวจพิพิธภัณฑ์และห้องสมุดของ North Terrace หามื้ออร่อยทานที่ “ถนนอาหาร” หรือปิกนิกในสวนที่มีอยู่กระจัดกระจายเกือบครึ่งเมือง ขี่จักรยานในสวนพฤกษศาสตร์ หรือพายเรือผ่านสวนกุหลาบใน Rymill Park ว่ายน้ำกับโลมา หรือหัดแล่นเรือใน Glenelg หรือตกปลาจากท่าเทียบเรือใน Henley เพียงออกจากตัวเมืองไปเล็กน้อยคุณจะพบกับภูเขา Adelaide Hills อันงดงามและแหล่งผลิตไวน์ระดับโลกของ Barossa Valleyคุณสามารถท่องเที่ยวโดยรถไฟสาย Ghan สู่เมืองดาร์วินในเขตร้อนชื้น โดยแวะเที่ยวจุดประทับใจในเมืองอลิซสปริงส์และแคทเทอรีน คุณสามารถใช้เส้นทางสายประวัติศาสตร์ Explorers Highway สู่ที่เดียวกันได้
ท่องเที่ยวโฮบาร์ต (Hobart)
นครหลวงเล็ก ๆ แห่งนี้ที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีชื่อเสียงในด้านอาคารทรงจอร์เจียและอากาศบริสุทธิ์ เดินชมตลาด Salamanca ที่จอแจและสัมผัสกับอาคารหินทรายใน Salamanca Place พาตัวออกมายัง MONA (พิพิธภัณฑ์ศิลปะยุคเก่าและใหม่) หรือขึ้น Artbike ได้ฟรีแล้วสำรวจจุดที่น่าสนใจทางวัฒนธรรมรอบ ๆ เมือง ปีนภูเขา Wellington ที่สูงชันเพื่อชมวิวที่ตระการตาของเมืองโฮบาร์ตและแม่น้ำ Derwent ที่กว้างใหญ่ เข้าร่วมโปรแกรมทัวร์ผีสิงใน Battery Point เดินข้ามสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศออสเตรเลียในเมืองริชมอนด์ และแวะชมหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมฝั่งทะเลของเมือง Kettering เดินลดเลี้ยวผ่านป่าและพื้นที่เพาะปลูกไปยังไร่องุ่นเขตภูมิอากาศเย็นใน Coal Valley ชมใบเรือสีสดขนาดใหญ่รูปสามเหลี่ยมในน้ำและทานอาหารทะเลจากภัตตาคารริมน้ำในเมืองโฮบาร์ต
จุดหมายปลายทางมีชื่อเสียงที่คุณสามารถไปเยือนได้จากโฮบาร์ต และการเดินทางไปที่นั่นด้วยความประทับใจ ขับไปตามเส้นทาง East Coast Escape สู่อุทยานแห่งชาติ Freycinet National Park สวรรค์แห่งเทือกเขาสีชมพูหม่น หาดทรายสีขาว และทะเลสีเขียวอมน้ำเงิน ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของป่าดิบมรดกโลก ซึ่งประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติ 17 แห่ง และครอบคลุมพื้นที่หนึ่งในห้าของเกาะ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้เส้นทาง Circle Tasmania Drive เที่ยวเพิ่มเติมเพื่อชมอุทยานแห่งชาติ Cradle Mountain-Lake St. Clair National Park นักเดินป่าควรศึกษาเส้นทางท่องเที่ยว Overland Track ซึ่งมีความยาว 65 กม. จากภูเขาเครเดิลไปยังทะเสสาบเซนต์แคลร์ โดยใช้เวลาหกวัน
ท่องเที่ยวดาร์วิน (Darwin)
ดาร์วิน นครหลวงในเขตร้อนชื้นอันผ่อนคลายของนอร์ทเทิร์นเทอริทอรี สภาพอากาศอบอุ่นสบายของดาร์วิน แหล่งรวมของอาหารและวัฒนธรรม จากงานรื่นเริงและตลาดกลางแจ้งมากมายภายในเมือง จากนั้นสำรวจประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของพื้นที่แถบนี้ในพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ นับตั้งแต่การโจมตีทางอากาศในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ไปจนถึงพายุไซโคลน Tracey แล่นเรือชมพระอาทิตย์ตกดินในอ่าวดาร์วิน ล่องเรือผ่านฝูงจระเข้ และเดินท่องในป่ามรสุม ว่ายน้ำในแอ่งน้ำที่ใสบริสุทธิ์ของอุทยานแห่งชาติ Litchfield และเยือนชุมชนอันคึกคักบนหมู่เกาะ Tiwi เมืองหลวงในเขตร้อนชื้นที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้ เปี่ยมด้วยพลังแห่งความหนุ่มสาวที่ยากจะหักห้ามใจได้
ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ Kakadu National Park ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก เป็นบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำที่สมบูรณ์ มีสัตว์ป่า และหอศิลป์ที่จัดแสดงงานศิลปะหินของชาวอะบอริจิน บินสู่ Red Centre ของออสเตรเลีย ที่ตั้งของ Uluru ภูเขาหินทรายศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงเมืองอลิซสปริงส์ คิงแคนยอน อุทยานแห่งชาติ Finke Gorge National Park และเทือกเขาแมคโดนัลด์ ดาร์วินยังเป็นจุดเริ่มต้นเดินทางสู่การผจญภัยในออสเตรเลีย เดินทางข้ามทวีปสู่แอดิเลดบนถนนสำรวจเส้นทางประวัติศาสตร์ Explorers Highway หรือเที่ยวทางรถไฟสาย Ghan คุณยังอาจขับวนไปด้านตะวันตกเฉียงเหนือของออสเตรเลียได้บนเส้นทาง Savannah Way สู่ Broome
ท่องเที่ยวแคนเบอร์รา (Canberra)
แคนเบอร์รา นครหลวงของออสเตรเลียและสถานที่ที่มีแต่จุดท่องเที่ยวดี ๆ ของประเทศ เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตในนครหลวงของประเทศออสเตรเลีย สำรวจการเมืองในอดีตและประชาธิปไตยยุคใหม่ที่พิพิธภัณฑ์ Museum of Australian Democracy และอาคารรัฐสภา รู้จักกับเหล่าวีรบุรุษทางกีฬาของเราที่ National Institute of Sport and Science และชมปรากฏการณ์แผ่นดินไหวที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ Questacon เมื่อชมพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์จนเต็มอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเพลิดเพลินกับกิจกรรมการแจ้ง นครที่ร่ำรวยด้วยวัฒนธรรมแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของทะเลสาบ สวนธรรมชาติ และป่าละเมาะพื้นเมืองที่รายรอบ ในท่ามกลางความร่มรื่นของหมู่ไม้ เมืองแคนเบอร์รามีภัตตาคารที่ทันสมัย บาร์ดัง ร้านบูติกเสื้อผ้าแฟชั่น เทศกาลและงานต่าง ๆ ตลอดทั้งปี
พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และอุทยานแห่งชาติ Namadgi National Park ที่เป็นมรดกโลก เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดหมายสำคัญอันมีชื่อเสียงแห่งนี้ ที่ที่คุณสามารถเดินสำรวจป่า ปีนผา ชมสัตว์พื้นเมืองอย่างใกล้ชิด และชื่นชมศิลปะบนหินของชาวอะบอริจินโบราณ เยี่ยมชมเขตอนุรักษ์ Tidbinbilla Nature Reserve ถิ่นพำนักอันปลอดภัยของสัตว์ป่า หรือว่ายน้ำ ตกปลา ตั้งแค้มป์ที่ Murrumbidgee River Corridor การเดินทางสู่ที่ต่าง ๆ ในเขตปกครองออสเตรเลียนแคปิตอล เช่น เส้นทางขับรถ Capital and Country ที่มีทัศนียภาพงดงาม ที่จะพาคุณผ่านหมู่บ้านยุคอาณานิคมที่มีเสน่ห์ สวนสวย ไร่องุ่น หอศิลป์และร้านขายของโบราณ หรือเส้นทางสายโรแมนติก Poachers Trail เข้าสู่เทือกเขา Australian Alps อันกว้างใหญ่ไพศาล ในฤดูใบไม้ผลิ สวนสวยในแคนเบอร์ราจะเต็มไปด้วยสีสันสดใสของมวลดอกไม้ในงานไม้ดอก ในฤดใบไม้ร่วง ท้องฟ้าเหนือแคนเบอร์ราจะเต็มไปด้วยบอลลูนหลากสีของงานเทศกาล Canberra Balloon Fiesta
ท่องเที่ยวออสเตรเลีย มีเทศกาลประจำปีอะไรบ้าง
Vivid Sydney
นิทรรศการนี้เป็นเทศกาลแห่งแสงดนตรีและไอเดียที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการจัดแสดงแสงไฟกลางแจ้งและการฉายภาพที่สวยงามและเป็นที่นิยมในสถานที่สำคัญของเมืองซิดนีย์ในสถานที่ยอดนิยมรวมถึงรายการดนตรีรวมถึงกิจกรรมทางความคิดมากมาย ที่สำคัญเทศกาลนี้ตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของเมืองซิดนีย์ ซึ่งกำลังขยายออกไปยังชานเมืองซิดนีย์โดยรอบมากขึ้นเรื่อย ๆ
Sculptures by the Sea
นิทรรศการ Sculpture by the Sea ในซิดนีย์และเพิร์ทเป็นนิทรรศการประติมากรรมกลางแจ้งประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย นิทรรศการนี้ริเริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1997 ที่หาดบอนไดและจัดแสดงผลงานประติมากรรมของศิลปินทั้งชาวออสเตรเลียและชาวต่างชาติ ในปีค.ศ. 2005 มีการจัดกิจกรรมร่วมกันที่หาด Cottesloe ในออสเตรเลียตะวันตกโดยมีศิลปินกว่า 70 คน ในปีค.ศ. 2009 มีการประกาศว่าเมืองออร์ฮูสในเดนมาร์กจะเป็นเจ้าภาพจัดนิทรรศการ Sculpture by the Sea ครั้งแรกนอกประเทศออสเตรเลีย นิทรรศการนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูใบไม้ผลิในออสเตรเลียตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นเวลาสามสัปดาห์ มีศิลปินทั้งในท้องถิ่นรัฐและต่างประเทศกว่า 100 คนเข้าร่วมทุกปี เป็นประติมากรรมริมทะเลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศออสเตรเลีย
Sydney New Year’s Eve
วันส่งท้ายปีเก่าของซิดนีย์เป็นงานหลายชั้นประจำปีที่จัดขึ้นทุกวันส่งท้ายปีเก่าในซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่สะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์และรอบ ๆ พอร์ตแจ็คสันกิจกรรมหลักคือการแสดงดอกไม้ไฟสองครั้ง: ดอกไม้ไฟสำหรับครอบครัว 21.00 น. และดอกไม้ไฟเที่ยงคืนซึ่งทั้งสองงานได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในระดับประเทศโดยมีการถ่ายทอดสด Midnight Fireworks ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลกประสานกับซาวด์แทร็กเพลงยอดนิยมจากอดีตและปัจจุบัน ดอกไม้ไฟจะระเบิดออกจากซุ้มแคทวอล์คและถนนของสะพานฮาร์เบอร์รวมถึงโอเปร่าเฮาส์อาคารในเมืองใกล้เคียงและเรือบรรทุกสินค้ามากถึงแปดลำแบ่งเท่า ๆ กันทั้งสองด้านของสะพาน ในแต่ละปีจะมีการเลือกธีมใหม่และมีผู้คนมากกว่าหนึ่งล้านคนที่อยู่รอบ ๆ ท่าเรือและหนึ่งพันล้านคนทั่วโลกสำหรับงาน Midnight Fireworks สำหรับการเฉลิมฉลองในปีค.ศ. 2010/2011 ผู้ชมกว่า 1.5 ล้านคนดูการแสดงผลจากท่าเรือท้องถิ่นและมีการรายงานว่ามีผู้ชม 1.1 พันล้านคนทั่วโลกรับชมเทศกาลด้วย งานนี้ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1995
Carols by Candlelight
เป็นประเพณีคริสต์มาสประจำปีของออสเตรเลียซึ่งจัดขึ้นที่เมืองซิดนีย์และเมืองเมลเบิร์น ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศออสเตรเลียตะวันออกเฉียงใต้ในศตวรรษที่ 19 และเป็นที่นิยมในเมลเบิร์นในปี ค.ศ. 1938 ซึ่งประเพณีนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ที่เกี่ยวข้องกับการรวมตัวกันของผู้คนซึ่งโดยปกติจะอยู่กลางแจ้งในสวนสาธารณะเพื่อร้องเพลงแครอลใต้แสงเทียนโดยมีการแสดงสดของคนดังทั้งในและต่างประเทศพร้อมด้วยวงดนตรีซิมโฟนีออเคสตรา และงานนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดสำหรับผู้เข้าชม
Adelaide Festival
เทศกาลศิลปะแอดิเลดหรือที่รู้จักกันในชื่อเทศกาลแอดิเลดเป็นเทศกาลศิลปะประจำปีที่จัดขึ้นในเมืองหลวงแอดิเลดทางใต้ของออสเตรเลียในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1960 ถือเป็นงานเฉลิมฉลองทางศิลปะที่สำคัญงานหนึ่งของโลกและเป็นงานทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงในออสเตรเลีย เทศกาลนี้ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองและสวนสาธารณะโดยมีสถานที่จัดงานบางแห่งในเขตชานเมืองด้านใน (เช่นโรงละครโอเดียนนอร์วูด) หรือบางครั้งก็ไกลออกไป Adelaide Festival Center และ River Torrens มักจะเป็นศูนย์กลางของงานและในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Elder Park ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพในพิธีเปิด ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ มากมายซึ่งโดยปกติจะรวมถึงโอเปร่าละครเต้นรำดนตรีคลาสสิกและร่วมสมัยคาบาเร่ต์วรรณกรรมทัศนศิลป์และสื่อใหม่ งานดนตรีระดับโลกสี่วัน WOMA Delaide และเทศกาลวรรณกรรม Adelaide Writers ‘Week ก็เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลนี้เช่นกัน เดิมนำเสนอทุกสองปีพร้อมกับ Adelaide Fringe (อย่างไม่เป็นทางการในตอนแรก) Fringe ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปีค.ศ. 2007 โดยมีงานเทศกาลศิลปะเป็นประจำทุกปีในอีกไม่กี่ปีต่อมาในปีค.ศ. 2012 ด้วยกิจกรรมทั้งหมดนี้รวมถึงผู้เข้าชมเพิ่มเติมกิจกรรมต่าง ๆ และคอนเสิร์ตดนตรีที่นำมาจากงานแข่งรถบนถนนที่รู้จักกันในชื่อ Adelaide 500 ช่วงเวลาของปีมักเรียกกันว่า “Mad March”
Sydney Gay and Lesbian Mardi Gras
เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย มีขบวนพาเหรดและงานเต้นรำดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก เป็นงานประจำปีที่ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐนิวเซาท์เวลส์ในแง่ของผลกระทบทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ต่อปีประมาณ 30 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียให้กับรัฐ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากขบวนพาเหรดเพื่อสิทธิของชาวเกย์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1978 เมื่อผู้เข้าร่วมจำนวนมากถูกจับกุมโดยตำรวจนิวเซาท์เวลส์ ขบวนพาเหรด Mardi Gras ยังคงรักษารสชาติทางการเมืองโดยมีกลุ่มเดินขบวนจำนวนมากและการลอยตัวที่ส่งเสริมประเด็นหรือประเด็นด้านสิทธิ LGBTQI สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ Sydney Gay & Lesbian Mardi Gras ครั้งแรกผู้เข้าร่วมใน Mardi Gras Parade ในขณะนี้ประกอบด้วยกลุ่มเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันออสเตรเลียในเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจจากตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างรัฐและรัฐบาลกลางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเหตุฉุกเฉินอื่น ๆ เจ้าหน้าที่บริการจากชุมชน LGBTQI ของออสเตรเลีย ความเท่าเทียมกันในการแต่งงานเป็นหัวข้อที่โดดเด่นในงาน Sydney Gay & Lesbian Mardi Gras Parade ในปีค.ศ. 2011 โดยมีขบวนแห่อย่างน้อย 15 ขบวนเพื่อการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน และในปีค.ศ. 2019 Sydney Gay & Lesbian Mardi Gras ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อเป็นเจ้าภาพ World Pride 2023 แข่งขันกับมอนทรีออลแคนาดาและฮูสตันเท็กซัส Inter Pride ในการประชุมสามัญประจำปีขององค์กรผู้แทนสามร้อยแห่งในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2019 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเอเธนส์ประเทศกรีซได้เลือกซิดนีย์ออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Pride 2023 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ World Pride จะจัดขึ้นในซีกโลกใต้หรือภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
Byron Bay Blues Festival
Byron Bay Bluesfest เดิมคือ East Coast International Blues & Roots Music Festival เป็นเทศกาลดนตรีประจำปีของออสเตรเลียที่จัดขึ้นในช่วงวันหยุดยาวอีสเตอร์ในย่านไบรอนเบย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ตั้งแต่ปีค.ศ. 1990 เทศกาลนี้มีให้เลือกมากมาย นักแสดงบลูส์และมีพื้นฐานจากออสเตรเลียและทั่วโลกและเป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีร่วมสมัยชั้นนำของโลก เทศกาลนี้ก่อตั้งโดย Dan Doeppel และ Kevin Oxford ในปีค.ศ. 1990 และปัจจุบันดำเนินการโดย Peter Noble ซึ่งเข้าร่วมงาน Oxford ในปีค.ศ. 1994 จัดขึ้นในหลายสถานที่ในและรอบ ๆ อ่าว Byron และปัจจุบันจัดขึ้นที่ Tyagarah ห่างจากเมือง Byron Bay ไปทางเหนือ 11 กิโลเมตร จากเดิมดำเนินการเป็นเวลาสี่วันปัจจุบันดำเนินการเป็นเวลาห้าวันตั้งแต่วันพฤหัสบดีถึงวันจันทร์ จากเดิมที่มีผู้ชม 6,000 คนปัจจุบันสามารถดึงดูดผู้ชมได้มากกว่า 101,000 คนต่อปีในช่วง 5 วัน ผู้อุปการะคุณมีตั้งแต่ผู้คนในท้องถิ่นไปจนถึงผู้เยี่ยมชมจากต่างประเทศจากหลากหลายอายุรวมถึงคนดังเช่น Matt Damon, Jason Momoa และ Chris Hemsworth
Australia Day, January 26th
วันชาติออสเตรเลียเป็นวันชาติอย่างเป็นทางการของออสเตรเลีย เฉลิมฉลองเป็นประจำทุกปีในวันที่ 26 มกราคมซึ่งเป็นวันครบรอบการมาถึงของเรือเดินสมุทรลำแรกของอังกฤษในปี ค.ศ. 1788 ที่พอร์ตแจ็คสัน รัฐนิวเซาท์เวลส์และการยกธงบริเตนใหญ่ที่อ่าวซิดนีย์โดยผู้ว่าการอาร์เธอร์ฟิลลิป ในประเทศออสเตรเลียในปัจจุบันการเฉลิมฉลองสะท้อนให้เห็นถึงสังคมและภูมิทัศน์ที่หลากหลายของประเทศและมีการทำเครื่องหมายโดยกิจกรรมของชุมชนและครอบครัวการสะท้อนประวัติศาสตร์ออสเตรเลียรางวัลชุมชนอย่างเป็นทางการและพิธีมอบสัญชาติต้อนรับสมาชิกใหม่ของชุมชนออสเตรเลีย ความหมายและความสำคัญของวันชาติออสเตรเลียมีการพัฒนาและถูกโต้แย้งอยู่ตลอดเวลาและไม่ใช่ทุกรัฐที่เฉลิมฉลองวันเดียวกันกับวันที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ อย่างไม่เป็นทางการหรือในอดีตวันที่นี้ยังมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อวันครบรอบวันสถาปนาและวัน ANA เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Invasion Day และ National Day of Mourning วันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 1788 ถือเป็นการประกาศอำนาจอธิปไตยของอังกฤษเหนือชายฝั่งทะเลตะวันออกของออสเตรเลีย (หรือที่เรียกว่านิวฮอลแลนด์) แม้ว่าจะไม่เป็นที่รู้จักในชื่อวันชาติออสเตรเลียจนกระทั่งกว่าหนึ่งศตวรรษต่อมาบันทึกการเฉลิมฉลองในวันที่ 26 มกราคมย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1808 โดยมีการเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการครั้งแรกของการก่อตัวของรัฐนิวเซาท์เวลส์ในปี ค.ศ. 1818 ในวันปีใหม่ ค.ศ. 1901 อาณานิคมของอังกฤษ ของออสเตรเลียได้จัดตั้งสหพันธรัฐขึ้นโดยนับเป็นการกำเนิดของออสเตรเลียยุคใหม่ มีการมองหาวันแห่งความสามัคคีและการเฉลิมฉลองของชาติ จนกระทั่งปีค.ศ. 1935 รัฐและดินแดนทั้งหมดของออสเตรเลียได้นำคำว่า “วันออสเตรเลีย” มาใช้เพื่อกำหนดวันดังกล่าวและจนกระทั่งปีค.ศ. 1994 วันดังกล่าวได้ถูกทำเครื่องหมายเป็นวันหยุดราชการอย่างต่อเนื่องในทุกรัฐและดินแดน ซึ่งในออสเตรเลียร่วมสมัยวันหยุดจะถูกกำหนดโดยการนำเสนอรางวัล Australian of the Year Awards ในวันส่งท้ายปีของออสเตรเลียการประกาศรายชื่อผู้มีเกียรติในวันออสเตรเลียและคำปราศรัยจากผู้ว่าการทั่วไปและนายกรัฐมนตรี เป็นวันหยุดราชการอย่างเป็นทางการในทุกรัฐและทุกดินแดน ด้วยเทศกาลชุมชนคอนเสิร์ตและพิธีมอบสัญชาติวันนี้มีการเฉลิมฉลองในชุมชนขนาดใหญ่และขนาดเล็กและเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ วันออสเตรเลียได้กลายเป็นงานสำคัญประจำปีของพลเมืองในออสเตรเลีย และขณะนี้มีกิจกรรมบางอย่างของชนพื้นเมืองในออสเตรเลีย อย่างไรก็ตามตั้งแต่อย่างน้อยปีค.ศ. 1938 เป็นต้นมา วันที่เป็นวันชาติออสเตรเลียก็ได้ถูกทำเครื่องหมายโดยชาวออสเตรเลียพื้นเมืองและผู้ที่เห็นอกเห็นใจในสาเหตุดังกล่าวไว้ทุกข์สิ่งที่ถูกมองว่าเป็นการบุกรุกดินแดนโดยอังกฤษและการเริ่มต้นของการล่าอาณานิคมการประท้วง การเฉลิมฉลองเป็นวันหยุดประจำชาติ บางครั้งกลุ่มเหล่านี้อ้างถึงวันที่ 26 มกราคมว่าเป็นวันบุกรุกวันแห่งการอยู่รอดหรือวันแห่งการไว้ทุกข์เพื่อถือเป็นการตอบโต้การเฉลิมฉลองและสนับสนุนว่าควรเปลี่ยนวันที่หรือควรยกเลิกวันหยุดทั้งหมด
Perth International Arts Festival
เทศกาลเพิร์ท ชื่อ Perth International Arts Festival (PIAF) ระหว่างปี ค.ศ. 2000 ถึง ค.ศ. 2017 และบางครั้งก่อนหน้านี้เรียกว่า Festival of Perth เป็นเทศกาลทางวัฒนธรรมที่ดำเนินมายาวนานที่สุดของออสเตรเลียซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในออสเตรเลียตะวันตก โปรแกรมประกอบด้วยดนตรีร่วมสมัยและคลาสสิกการเต้นรำการละครโอเปร่าทัศนศิลป์งานสาธารณะขนาดใหญ่ กิจกรรมหลักของเทศกาลจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมโดยเทศกาลนักเขียนเพิร์ท (เปลี่ยนชื่อเป็นชื่ออื่นตามช่วงเวลา) จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ในขณะที่เทศกาลภาพยนตร์ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ Lottery west Films เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ เทศกาลเพิร์ทงานนี้จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลียเป็นหลักโดยมีหลายงานจัดขึ้นที่สถานที่จัดงานกลางแจ้งที่ UWA แต่มีบางกิจกรรมเกิดขึ้นที่อื่น เทศกาลนี้ดำเนินการโดย UWA ร่วมกับรัฐบาลของรัฐและสภาเมืองเพิร์ธ ตั้งแต่ปีค.ศ. 2004 เทศกาลนี้มีการสร้างตราสินค้า Lotterywest และ Lotterywest ได้รับการยอมรับว่าเป็น “หุ้นส่วนหลัก” ของเทศกาล ผู้กำกับศิลป์ในปี ค.ศ. 2020 ถึง ค.ศ. 2023 คือ Iain Grandage
The Rocks Aroma Festival, Sydney
เทศกาล The Rocks Aroma Festival ซึ่งจัดขึ้นทุกฤดูหนาวในปีนี้ความมหัศจรรย์ทั้งหมดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-21 กรกฎาคม ซึ่งเทศกาลนี้จะเป็นงานเกี่ยวกับกาแฟที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียเป็นงานฉลองที่แท้จริงสำหรับความรู้สึก ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟและนักชิมที่หลงใหลในความหวานและเครื่องเทศจะได้พบกับเทศกาลที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ซึ่งมีเครื่องคั่วกาแฟชั้นนำมากกว่า 24 แห่ง ทุกคนสามารถหาของกินหวาน ๆ ไปทานคู่กับกาแฟของคุณได้ที่ผู้ขายหลายรายที่จัดแสดงสินค้าของพวกเขาในงานเทศกาล – มองหาเค้กหวานและของว่างแสนอร่อยให้เลือกมากมาย และงานนี้ถือว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการยอมแพ้ต่อความรักในกาแฟและคุณไม่อยากพลาดการเปิดตัวกระเบื้องโมเสคกาแฟปีค.ศ. 2013 ซึ่งแสดงให้เห็นใบหน้าที่มีชื่อเสียงอยู่เสมอ และในขณะที่วันหลักของเทศกาลคือวันที่ 21 กรกฎาคมมีกิจกรรมเกี่ยวกับอาหารและกาแฟอื่น ๆ อีกมากมายในวันสำคัญ ระหว่างวันที่ 16-21 กรกฎาคมจะมีการจัดเวิร์กช็อปและกิจกรรมพิเศษรวมถึง ‘กาแฟชั้นสูง’ ในชุมชนที่มีชีวิตชีวาของ The Rocks และตัวงานจะออกร้านเป็น Out door ทุกร้าน
ที่มา:
Unilodgers Website: https://www.unilodgers.com/
สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
ท่องเที่ยวออสเตรเลีย ท่องเที่ยวออสเตรเลีย ท่องเที่ยวออสเตรเลีย ท่องเที่ยวออสเตรเลีย ท่องเที่ยวออสเตรเลีย