ข้อมูลประเทศแคนาดา (Canada)

แคนาดา (อังกฤษและฝรั่งเศส: Canada) เป็นประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ ติดกับสหรัฐ เป็นประเทศที่มีที่ตั้งอยู่ทางเหนือมากที่สุดของโลกและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลกและเมืองใหญ่ที่สุดในแคนาดา คือ โทรอนโต

ภูมิศาสตร์

แคนาดาเป็นประเทศที่อยู่ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ 10 รัฐและสามดินแดนขยายจากมหาสมุทรแอตแลนติกไปยังมหาสมุทรแปซิฟิกและขึ้นไปทางเหนือสู่มหาสมุทรอาร์คติกครอบคลุม 9.98 ล้านตารางกิโลเมตร (3.85 ล้านตารางไมล์) ทำให้เป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกโดยมีพื้นที่ทั้งหมด ตั้งแต่พรมแดนทางใต้และตะวันตกติดกับสหรัฐอเมริกายาว 8,891 กิโลเมตร (5,525 ไมล์) เป็นพรมแดนทางบกที่ยาวที่สุดในโลก เมืองหลวงของแคนาดาคือออตตาวาและมีเขตเมืองใหญ่ที่สุดสามแห่ง ได้แก่ โตรอนโต มอนทรีออลและแวนคูเวอร์ ส่วนทิวทัศน์และภูมิประเทศของแคนาดานั้นงดงามสุดบรรยาย ประกอบด้วย ที่ราบ, ภูเขา, ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์, ทะเลสาบต่าง ๆ โดยเฉพาะแถบเทือกเขาร๊อคกี้ในมณฑล อัลเบอร์ต้า ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวจะได้เห็นทะเลสาบสีเขียวมรกต ตัดกับภูเขาสวย ที่มีหิมะปกคลุมบนยอด เหมือนยกสวรรค์มาไว้บนดินจริง ๆ ยังกับอยู่ในรูปภาพที่วิจิตรงดงาม ประเทศแคนาดามีมาตรฐานชีวิตระดับดีที่สุดในโลก ประชากรส่วนใหญ่ 90% จะอยู่ไม่เกิน 150 ไมล์จากพรมแดนที่ติดกับประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งสถาบันการเรียนต่าง ๆ ในทุกระดับการศึกษาก็เช่นกัน

สภาพภูมิอากาศ

ประเทศแคนาดามีสภาพภูมิอากาศค่อนข้างหลากหลาย และอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือจึงมีความหนาวเย็น ส่วนทางตอนใต้จะเป็นเขตอบอุ่น ทางชายฝั่งทั้งตะวันตกและตะวันออกจะมีอากาศชื้น มีภูมิอากาศ 4 ฤดูกาล คือ

• ฤดูหนาว          พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์
• ฤดูใบไม้ร่วง    มีนาคม – พฤษภาคม
• ฤดูร้อน             มิถุนายน – สิงหาคม
• ฤดูใบไม้ผลิ     กันยายน – ตุลาคม

โซนเวลา

เนื่องจากแคนาดา เป็นประเทศกว้างใหญ่ จึงแบ่งเวลาออกเป็น 6 โซนเวลาตามพื้นที่ คือ

• Pacific Standard Time
• Mountain Standard Time
• Central Standard Time
• Eastern Standard Time
• Atlantic Standard Time
• Newfoundland Standard Time

โดยแต่ละโซนเวลาต่างกัน 1 ชั่วโมง มีเพียงโซนนิวฟาวด์แลนด์ที่เวลาต่างออกไปครึ่งชั่วโมง และโซนแปซิฟิคต่างกับเวลาที่กรีนิช 8 ชั่วโมง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าโซนแปซิฟิกทางซ้ายสุดเวลา 12.00 น. เขตภูเขาจะเป็นเวลา 13.00 น. เซ็นทรัลเวลา 14.00 น. เวลาเขตอีสเทิร์น 15.00 น. เวลาแอตแลนติก 16.00 น. และเวลาที่ นิวฟาวด์แลนด์จะเป็น 16.30 น. โดยที่กรีนิช จะเป็นเวลา 20.00 น. ขณะที่เวลาของกรุงเทพฯ คือ 2.00 น. ของวันรุ่งขึ้น แวนคูเวอร์อยู่ในโซนแปซิฟิก เวลาช้ากว่าไทย 14 ชั่วโมง, โตรอนโต อยู่ในโซนอี เทิร์น เวลาช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง (ช่วงเดือน พ.ย. – มี.ค. จะเป็น 15 ชม. และ 12 ชม. ตามลำดับ)

การเมืองการปกครอง

ปัจจุบันแคนาดาใช้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยถือสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรเป็นพระมหากษัตริย์

รัฐและดินแดน

ประเทศแคนาดาประกอบด้วยรัฐ 10 รัฐ และดินแดน 3 แห่ง โดยมีรายละเอียดดังนี้

อาณาเขต 10 รัฐ ได้แก่

• รัฐแอลเบอร์ตา คือรัฐหนึ่งของประเทศแคนาดา ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ เป็นหนึ่งในสองรัฐของประเทศที่ไม่มีส่วนที่ติดกับทะเล รัฐแอลเบอร์ตาจัดเป็นรัฐที่เจริญในด้านต่าง ๆ มากที่สุดใน 3 รัฐบนทุ่งหญ้าแพร์รีของแคนาดา และรัฐแอลเบอร์ตาเป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่คล้ายกับประเทศฝรั่งเศสและรัฐเท็กซัสของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีประชากรอาศัยอยู่ราว ๆ 3.7 ล้านคน ในปี ค.ศ. 2009 รัฐแอลเบอร์ตาถูกจัดตั้งขึ้นเป็นขึ้นในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1905 (ปี พ.ศ. 2448) ที่สำคัญรัฐแอลเบอร์ตามีเมืองหลวงชื่อว่าเอดมันตัน ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนล่างของรัฐ โดยมีระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร (190 ไมล์) และติดต่อกับเมืองคัลการีทางตอนใต้ นอกจากนี้รัฐแอลเบอร์ตายังเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการคมนาคมที่สำคัญของประเทศแคนาดาบริติชโคลัมเบีย
• รัฐบริติชโคลัมเบีย (ภาษาอังกฤษ: British Columbia; ภาษาฝรั่งเศส: la Colombie-Britannique) คือรัฐหนึ่งของประเทศแคนาดา ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของประเทศ และรัฐบริติชโคลัมเบีย มีเมืองหลวงชื่อว่า “วิคตอเรีย” มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 15 ของประเทศ โดยมีเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐคือเมือง “แวนคูเวอร์” ซึ่งเมืองแวนคูเวอร์นี้ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ
• รัฐแมนิโทบา (อังกฤษ: Manitoba) เป็นรัฐบนที่ราบแพร์รีแคนาดา ของแคนาดามีพื้นที่ 649,950 ตร.กม. (250,900 ตร.ไมล์) รัฐแมนิโทบาติดต่อกับรัฐออนแทรีโอทางตะวันออกและรัฐซัสแคตเชวันทางตะวันตก และดินแดนนูนาวุต ทางตอนเหนือ และติดกับรัฐนอร์ทดาโคตาและรัฐมินนิโซตา ของสหรัฐอเมริกาทางตอนใต้ รัฐแมนิโทบามีเส้นแนวชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าวฮัดสัน ที่เชอร์ชิลล์
• รัฐนิวบรันสวิก (อังกฤษ: New Brunswick) เป็นรัฐในกลุ่มรัฐภาคพื้นสมุทร 1 ใน 3 ของแคนาดา และเป็นรัฐที่ใช้สองภาษาเป็นหลัก (ภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษ) ในสมาพันธรัฐ มีเมืองหลวง คือ เฟรดริกตัน สถิติจำนวนประชากรของรัฐในปี 2009 อยู่ที่ 748,319 โดยส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษ แต่ส่วนใหญ่สามารถสื่อสารภาษาฝรั่งเศสได้ (32%) ส่วนใหญ่คืออคาเดีย
• รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ (อังกฤษ: Newfoundland and Labrador) เป็นรัฐของแคนาดา ทางชายฝั่งแอตแลนติก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ เป็นส่วนตะวันออกสุดของรัฐแคนาดา ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ เกาะนิวฟันด์แลนด์ทางตะวันออกของชายฝั่ง และแลบราดอร์บนแผ่นดินใหญ่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ
• รัฐโนวาสโกเชีย (อังกฤษ: Nova Scotia) เป็นรัฐในแคนาดา ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของแคนาดา เป็นรัฐที่มีพลเมืองหนาแน่นที่สุดของแคนาดาทางฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก มีเมืองหลวงคือ แฮลิแฟกซ์ เป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของรัฐ รัฐโนวาสโกเชียยังเป็นรัฐที่เล็กเป็นอันดับ 2 ของแคนาดา กับพื้นที่ 55,284 ตร. กม. (21,300 ตร. ไมล์) มีประชากร 939,531 คน ถือเป็นรัฐที่มีประชากรน้อยที่สุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศ ถึงแม้จะมีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 2 ของประเทศก็ตาม
• รัฐออนแทรีโอ (อังกฤษ: Ontario) เป็นรัฐ ตอนกลางของประเทศแคนาดา มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบจากจำนวนประชากรและใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากรัฐควิเบก เมื่อเทียบจากพื้นที่ออนแทรีโอมีเขตติดต่อกับรัฐแมนิโทบาทางตะวันตก และรัฐควิเบกทางตะวันออก และสหรัฐอเมริกา (ทางตะวันตกและทางตะวันออก) ของรัฐมินนิโซตา, รัฐมิชิแกน, รัฐโอไฮโอ, รัฐเพนซิลเวเนีย (ฝั่งตรงข้ามของทะเลสาบอีรี) และรัฐนิวยอร์กทางตอนใต้และตะวันออก พรมแดนระหว่างรัฐออนแทรีโอและสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่จะเป็นเขตแดนทางธรรมชาติ เริ่มจาก Lake of the Woods และต่อเนื่องกับเกรตเลกส์ ทั้ง 4: สุพีเรีย, ฮูรอน (รวมถึงอ่าวจอร์เจียน), อิรี และ ออนแทรีโอ จากนั้นก็แม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ ใกล้กับคอร์นวอลล์ รัฐออนแทรีโอถือเป็นรัฐเดียวที่ติดต่อกับเกรตเลกส์
• พรินซ์เอ็ดเวิร์ดไอแลนด์ (อังกฤษ: Prince Edward Island) เป็นรัฐของแคนาดา ประกอบด้วยเกาะในชื่อเดียวกัน เป็นรัฐในกลุ่มรัฐภาคพื้นสมุทรและยังเป็นรัฐที่เล็กที่สุดทั้งในแง่พื้นที่และประชากร (ไม่รวมดินแดน) จากข้อมูลในปี 2009 มีผู้อยู่อาศัยอยู่ 140,402 คน มีพื้นที่ 5,91 ตร.กม. (2,194.57 ตร.ไมล์) และยังเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 104 ของโลก และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 23 ของแคนาดา เกาะนี้ตั้งชื่อตามเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ออกุสตุส ดยุคแห่งเคนท์และสตราเธิร์น (1767–1820) พระโอรสองค์ที่ 4 ของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร และเป็นพระบิดาของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร
• รัฐบริติชโคลัมเบีย (ภาษาอังกฤษ: British Columbia; ภาษาฝรั่งเศส: la Colombie-Britannique) คือรัฐหนึ่งของประเทศแคนาดา ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของประเทศ และรัฐบริติชโคลัมเบีย มีเมืองหลวงชื่อว่า “วิคตอเรีย” มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 15 ของประเทศ โดยมีเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐคือเมือง “แวนคูเวอร์” ซึ่งเมืองแวนคูเวอร์นี้ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ
• ควิเบก (อังกฤษ: Québec, Quebec) หรือ เกแบ็ก (ฝรั่งเศส: Québec) เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดาอยู่ทางตะวันออกของประเทศ และเป็นรัฐเดียวที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการในระดับรัฐ แต่ใช้ภาษาฝรั่งเศสแทน รัฐควิเบกมีเมืองหลวงในชื่อเดียวกันคือควิเบก และเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือมอนทรีออล
• รัฐซัสแคตเชวัน (อังกฤษ: Saskatchewan) คือรัฐหนึ่งของประเทศแคนาดา ที่ตั้งอยู่ตอนกลางถัดไปทางตะวันตกของประเทศ เป็นหนึ่งในสองรัฐของประเทศที่ไม่มีส่วนที่ติดกับทะเล

อาณาเขต 3 ดินแดน ได้แก่

• นอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ (อังกฤษ: Northwest Territories) เป็นดินแดนของแคนาดา ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคนาดา ติดต่อกับอีก 2 ดินแดนของแคนาดาคือยูคอน ทางตะวันตกและนูนาวุต ทางตะวันออก และติดกับอีก 3 รัฐคือ รัฐบริติชโคลัมเบียทางตะวันตกเฉียงใต้ รัฐแอลเบอร์ตาและรัฐซัสแคตเชวัน ทางใต้ มีพื้นที่ 1,140,835 ตร.กม. (440,000 ตร.ไมล์) และมีประชากร 41,464 คน (ข้อมูลปี 2006) และเพิ่มขึ้น 11.0% ในปี 2001 มีเมืองหลวงคือ เยลโลว์ไนฟ์ ตั้งแต่ปี 1967 นูนาวุต
• นูนาวุต (อังกฤษ: Nunavut) เป็นดินแดนที่ใหญ่ที่สุดและใหม่ที่สุดของสหพันธรัฐของแคนาดา แยกออกมาอย่างเป็นทางการจากนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ เมื่อวันที่ 1 เมษายนน ค.ศ. 1999 ผ่านกฎหมายนูนาวุตและกฎหมายยินยอมอ้างสิทธิ์ดินแดนนูนาวุต (Nunavut Land Claims Agreement Act) กับพื้นที่จริงที่เกิดขึ้นในปี 1993 และนูนาวุตประกอบด้วยพื้นที่ใหญ่ 2 ส่วนของแคนาดาเหนือ ส่วนมากอยู่ในพื้นที่หมู่เกาะอาร์กติก นูนาวุตยังเป็นรัฐหรือดินแดนของแคนาดาที่ใหญ่ที่สุด แต่มีประชากรน้อยที่สุด มีราว 29,474 คน
• ยูคอน (อังกฤษ: Yukon) เป็นดินแดนทางตะวันตกและเป็นดินแดน ใน 3 ดินแดนที่เล็กที่สุดของประเทศแคนาดา ตั้งชื่อตามแม่น้ำยูคอน ซึ่งคำว่ายูคอนมีความหมายว่า “แม่น้ำใหญ่” ในภาษา Gwich’in ดินแดนนี้ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1898 ในชื่อดินแดนยูคอนภูเขาโลแกน ที่มีความสูง 5,959 เมตร (19,551 ฟุต) ตั้งอยู่ใน Kluane National Park and Reserve ถือเป็นภูเขาที่มีความสูงมากที่สุดในประเทศแคนาดาและสูงเป็นอันดับ 2 ในทวีปอเมริกาเหนือ (เป็นรองภูเขาแม็กคินลีย์ ในอะแลสกาของสหรัฐอเมริกา)

โครงสร้างทางเศรษฐกิจ

• อุตสาหกรรมการผลิตของแคนาดาส่วนใหญ่อยู่ในมณฑลออนทาริโอ (Ontario) และควิเบค (Quebec) ที่ซึ่งการผลิตยานยนต์เป็นภาคที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ ส่วนภาคการผลิตที่สำคัญอื่นๆนั้น รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม กระดาษและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง แร่โลหะ โลหะ ผสม ปิโตรเคมี และเคมีภัณฑ์
• ดินแดนแถบมหาสมุทรแอตแลนติค ทุ่งหญ้าแพรรี่ และชายฝั่งแปซิฟิคของแคนาดา มีสภาพเศรษฐกิจที่มีพื้นฐานจากทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าในแถบอื่นๆ มณฑลทางชายฝั่งแอตแลนติค จะเน้นที่การทำการประมง ป่าไม้ และเหมืองแร่ ขณะที่มณฑลในเขตทุ่งหญ้าแพรรี่ จะอาศัยการทำเกษตรกรรมและแร่เชื้อเพลิง ส่วนภาคอุตสาหกรรมสำคัญของมณฑล บริติช โคลัมเบีย คือ ป่าไม้ และเหมืองแร่ เช่นเดียวกับธุรกิจการท่องเที่ยว
• สินค้าส่งออกที่สำคัญ: รถยนต์และส่วนประกอบยานยนต์ เครื่องจักรกลและเครื่องมือต่าง ๆ สินค้าไฮ – เทค น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ แร่โลหะ และผลิตผลจากป่าไม้และฟาร์ม
• สินค้านำเข้าที่สำคัญ: เครื่องจักรกลและเครื่องมืออุตสาหกรรม ซึ่งรวมทั้งอุปกรณ์การสื่อสาร และอิเล็กทรอนิคส์ ส่วนประกอบรถยนต์และยานพาหนะ วัตถุดิบสำหรับงานอุตสาหกรรม (แร่โลหะ เหล็กและเหล็กกล้า โลหะมีค่า เคมีภัณฑ์ พลาสติก ฝ้าย ขนแกะ และผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ) เช่นดียวกับงานหัตถกรรม และผลิตภัณฑ์อาหาร

สกุลเงิน

ดอลลาร์แคนาดา (สัญลักษณ์: $; รหัส: CAD; ฝรั่งเศส: ดอลลาร์แคนาดา) เป็นสกุลเงินของแคนาดา มันย่อด้วยเครื่องหมายดอลลาร์ $ หรือบางครั้ง CA $ สามารถ $ หรือ C $ เพื่อแยกความแตกต่างจากสกุลเงินดอลลาร์อื่น ๆ แบ่งออกเป็น 100 เซ็นต์ (¢)  และคิดเป็นประมาณ 2% ของเงินสำรองทั่วโลกดอลลาร์แคนาดาเป็นสกุลเงินสำรองที่ถือครองมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกรองจากดอลลาร์สหรัฐยูโรเยนและปอนด์สเตอร์ลิง ซึ่งเงินดอลลาร์แคนาดาได้รับความนิยมจากธนาคารกลางเนื่องจากความมั่นคงทางเศรษฐกิจของแคนาดาตำแหน่งอธิปไตยที่แข็งแกร่งของรัฐบาลแคนาดาและเสถียรภาพของระบบกฎหมายและการเมืองของประเทศ

เชื้อชาติ

สังคมของแคนาดาเป็นสังคมที่มีส่วนผสมของชนชาติต่าง ๆ มากมาย โดยชนชาติที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานมากที่สุด ระหว่างปี พ.ศ. 2534 – 2543 (ค.ศ. 1991 – 2000) คือคนจากเอเชีย (จีน อินเดีย ปากีสถาน ลาว เขมร เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อิหร่าน) ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 59.5 ของคนเข้าเมืองเพื่อตั้งถิ่นฐานในแคนาดา โดยในปี พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962) รัฐสภาแคนาดาได้ออกกฎหมายคนเข้าเมืองตามข้อเสนอของพรรคอนุรักษนิยม ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้จนทุกวันนี้ สาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าวคือการยกเลิกการเลือกปฏิบัติ ก่อนหน้านี้ มีการออกกฎหมายปี พ.ศ. 2430 (ค.ศ. 1887) เพื่อกีดกันการเข้าเมืองของคนจีน และต่อมาปี ค.ศ. 1910 ได้ออกกฎหมายที่ใช้หลักการแหล่งกำเนิด แบ่งเป็น preferred ซึ่งคือ กลุ่มคนยุโรป และ non-preferred ได้แก่ กลุ่มที่ไม่ใช่ยุโรป) กล่าวคือ การเปิดรับคนเข้าเมืองจากทุกที่อย่างเป็นทางการทั่วไป และการใช้วิธีการคิดคะแนนประเมินน้ำหนัก (point system) ว่าสมควรรับผู้ใดเข้าไปตั้งถิ่นฐานในแคนาดา ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าแคนาดามองเรื่องการรับคนเข้าไปตั้งถิ่นฐานอย่างเป็นการถาวร เพื่อเป็นฐานการเก็บภาษีให้แก่รัฐบาลกลางและรัฐบาลของรัฐ และค่านิยมหลักของสังคมแคนาดาที่ฝังลึกในทุกคนคือ การส่งเสริมและเคารพในสิทธิและเสรีภาพของมนุษย์ ซึ่งเป็นหลักพื้นฐานสำคัญที่สุดของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สังคมแคนาดาจะสนใจอย่างยิ่งต่อพัฒนาการในประเทศที่มีระบอบการปกครองที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ศาสนา

แคนาดามีความหลากหลายทางศาสนาครอบคลุมความเชื่อและประเพณีที่หลากหลาย แคนาดาไม่มีคริสตจักรอย่างเป็นทางการและรัฐบาลมีความมุ่งมั่นอย่างเป็นทางการต่อพหุนิยมทางศาสนา เสรีภาพในการนับถือศาสนาในแคนาดาเป็นสิทธิที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญโดยอนุญาตให้บุคคลทั่วไปรวมตัวกันและนมัสการได้โดยไม่ จำกัด หรือแทรกแซง ปัจจุบันการปฏิบัติตามหลักศาสนาถือเป็นเรื่องส่วนตัวทั่วทั้งสังคมและรัฐ ด้วยความเสื่อมโทรมของศาสนาคริสต์หลังจากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางและเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมและชีวิตประจำวันของแคนาดาแคนาดาจึงกลายเป็นรัฐหลังคริสต์ศาสนา ชาวแคนาดาส่วนใหญ่มองว่าศาสนาไม่สำคัญในชีวิตประจำวัน แต่ยังคงเชื่อในพระเจ้า

• โรมันคาทอลิก (0%)
• คริสต์ศาสนิกชนนิกายอื่น ๆ (3%)
• ไม่มีศาสนา (9%)
• อิสลาม (2%)
• ฮินดู (5%)
• ซิกข์ (4%)
• พุทธ (1%)
• ยิว (0%)
• ศาสนาอื่น ๆ (6%)

วัฒนธรรม

วัฒนธรรมของแคนาดาได้รับอิทธิพลจากเชื้อชาติที่หลากหลายและนโยบายที่ส่งเสริม “สังคมที่ยุติธรรม” ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ แคนาดาให้ความสำคัญกับความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันสำหรับประชาชนทุกคน ความหลากหลายทางวัฒนธรรมมักถูกอ้างว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญของแคนาดาและเป็นองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สำคัญของอัตลักษณ์ของแคนาดา ในควิเบกเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมมีความเข้มแข็งและมีวัฒนธรรมแคนาดาแบบฝรั่งเศสที่แตกต่างจากวัฒนธรรมแคนาดาแบบอังกฤษ อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วแคนาดาเป็นภาพโมเสกทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นกลุ่มวัฒนธรรมย่อยของภูมิภาคในระดับภูมิภาค

ภาษา

ชาวแคนาดาใช้ภาษาหลากหลายภาษาโดยภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส (ภาษาราชการ) เป็นภาษาแม่ของชาวแคนาดาประมาณ 56 เปอร์เซ็นต์และ 21 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ในการสำรวจสำมะโนประชากรปี พ.ศ. 2559 (ค.ศ. 2016) มีชาวแคนาดากว่า 7.3 ล้านคนระบุว่าภาษาที่ไม่เป็นทางการเป็นภาษาแม่ของพวกเขา ภาษาแรกที่ไม่เป็นทางการที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ จีน (ผู้พูดภาษาแรก 1,227,680 คน) ปัญจาบ (501,680) สเปน (458,850) ภาษาตากาล็อก (431,385) ภาษาอาหรับ (419,895) เยอรมัน (384,040) และอิตาลี (375,645) รัฐบาลกลางของแคนาดาใช้สองภาษาอย่างเป็นทางการซึ่งนำมาใช้โดยผู้บัญชาการภาษาราชการโดยสอดคล้องกับมาตรา 16 ของกฎบัตรสิทธิและเสรีภาพของแคนาดาและพระราชบัญญัติภาษาราชการของรัฐบาลกลาง ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสมีสถานะเท่าเทียมกันในศาลของรัฐบาลกลางรัฐสภาและในสถาบันของรัฐบาลกลางทั้งหมด พลเมืองมีสิทธิในกรณีที่มีความต้องการเพียงพอที่จะรับบริการของรัฐบาลกลางทั้งในภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศสและชนกลุ่มน้อยที่ใช้ภาษาราชการจะได้รับการรับรองโรงเรียนของตนเองในทุกจังหวัดและเขตการปกครอง

การคมนาคม

การขนส่งในแคนาดาซึ่งเป็นประเทศที่มีพื้นที่ครอบคลุมมากเป็นอันดับสองของโลกมุ่งมั่นที่จะมีการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบที่มีประสิทธิภาพและมีความจุสูงซึ่งมักจะมีระยะทางมากมายระหว่างสถานที่สกัดทรัพยากรธรรมชาติพื้นที่เกษตรกรรมและในเมือง ระบบการขนส่งของแคนาดาประกอบด้วยถนนมากกว่า 1,400,000 กิโลเมตร (870,000 ไมล์) สนามบินนานาชาติหลัก 10 แห่งสนามบินขนาดเล็ก 300 แห่งรางรถไฟที่ใช้งานได้ 72,093 กิโลเมตร (44,797 ไมล์) และท่าเรือพาณิชย์และท่าเรือมากกว่า 300 แห่งที่ให้การเข้าถึงมหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรแอตแลนติกและอาร์กติกตลอดจนเกรตเลกส์และเซนต์ลอว์เรนซ์ซีเวย์ ในปี 2548 ภาคการขนส่งคิดเป็น 4.2% ของ GDP ของแคนาดาเทียบกับ 3.7% สำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการสกัดน้ำมันและก๊าซของแคนาดา รวมถึง Transport Canada ดูแลและควบคุมด้านการขนส่งส่วนใหญ่ภายในเขตอำนาจศาลของรัฐบาลกลางรวมถึงการขนส่งระหว่างกระบวนการ ซึ่งส่วนใหญ่รวมถึงการขนส่งทางรถไฟทางอากาศและทางทะเล การขนส่งแคนาดาอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของรัฐบาลกลาง คณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งของแคนาดามีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในการขนส่งในแคนาดาโดยการตรวจสอบอุบัติเหตุและให้คำแนะนำด้านความปลอดภัย

ระบบน้ำประปา

น้ำประปาและการสุขาภิบาลในแคนาดาเกือบจะเป็นสากลและโดยทั่วไปมีคุณภาพดี แต่การขาดน้ำดื่มสะอาดในชุมชนแห่งแรกของประเทศหลายแห่งยังคงเป็นปัญหา การใช้น้ำในแคนาดาสูงเมื่อเทียบกับยุโรปเนื่องจากภาษีน้ำอยู่ในระดับต่ำและ 44% ของผู้ใช้ไม่ได้รับการตรวจสอบ แม้จะมีความมุ่งมั่นของรัฐบาลกลางในการส่งเสริมการกู้คืนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่มีเพียง 50% ของค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำเท่านั้นที่ได้รับการกู้คืนจากผู้ใช้ผ่านทางภาษีส่วนที่เหลือได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากภาษี

ระบบไฟฟ้า

ระบบไฟฟ้าทั้งหมดในแคนาดาคือ 60Hz พลังงานในประเทศ / เชิงพาณิชย์คือ 120V, 1 เฟส นี่คือสิ่งที่ใช้สำหรับสิ่งต่างๆเช่นคอมพิวเตอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ฯลฯ โดยทั่วไปการกระจายในครัวเรือนจะเป็นเฟสแยก 120 / 240V และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ (เช่นเตาหรือเครื่องปรับอากาศ) จะเป็น 240V เฟสเดียว เครื่องมืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่บางรุ่นยังใช้ 240V เฟสเดียว และระบบไฟฟ้าเชิงพาณิชย์บางระบบจะมีระบบ 3 เฟส 120 / 208V ซึ่งให้เฟสเดียว 120V สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กและอุปกรณ์ 240V เฟสเดียวจะทำงานบน 208V L-N ที่มีอยู่ในระบบนั้น และพลังงานแรงดันต่ำในอุตสาหกรรมจะเป็น 600V สามเฟส แต่จะยังคงมี 480V ระบบ 3

ระบบโทรศัพท์

รหัสการโทร ประเทศแคนาดา +1

หมายเลข 911 เป็นหมายเลขติดต่อฉุกเฉินได้ทั้ง 3 กรณี

• โทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ
• โทรเรียกรถพยาบาล
• โทรเรียกพนักงานดับเพลิง

 สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร: 090-327 3558, 088-269 5099
Email: contact@thebest-edu.com
Line: @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

ที่มา:

• Wikipedia Website: https://th.wikipedia.org/
• Success Canada website: http://www.successcanada.org/canada.html/ 
• NRCAN Website: https://www.nrcan.gc.ca/