วีซ่าท่องเที่ยวประเทศสหรัฐอเมริกา
ชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้าไปประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อวัตถุประสงค์ในการท่องเที่ยวจะต้องถือ Visitor Visa (B-2) โดยการท่องเที่ยวนั้นหมายถึงการเยือนประเทศสหรัฐอเมริการะยะสั้นเพื่อพักผ่อน เพื่อเยี่ยมครอบครัวหรือเพื่อน และเพื่อการรักษาทางการแพทย์
ประเภทของ Visitor Visa
Business Visitor Visas (B-1)
- เพื่อปรึกษาหรือหารือทางธุรกิจ
- เพื่อร่วมงานการประชุมหรือการสัมมนาทางวิทยาศาสตร์ ทางการศึกษา ทางวิชาชีพหรือทางธุรกิจ
- เพื่อการตั้งถิ่นฐาน ทรัพย์สิน
- เพื่อเจรจาสัญญา
Pleasure, Tourism, Medical Treatment – Visitor Visas (B-2)
- เพื่อการท่องเที่ยว
- เพื่อการพักผ่อนในวันหยุด
- เพื่อเยี่ยมเพื่อนหรือญาติ
- เพื่อการรักษาทางการแพทย์
- เพื่อเข้าร่วมงานสังคมที่จัดโดยองค์กรทางสังคม มิตร หรือทางการบริการ
- เพื่อเข้าร่วมงานหรือการประกวดแบบมือสมัครเล่น (Amateurs) ทางดนตรี กีฬา หรือกิจกรรมที่ใกล้เคียงอื่นๆโดยไม่ได้รับค่าจ้างในการเข้าร่วม
- เพื่อลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรสันทนาการระยะสั้น ที่ไม่เป็นเครดิตที่สามารถโอนไปยังหลักสูตรปริญญาได้ เช่น ลงทะเบียนเรียนทำอาหารสองวันในช่วงวันหยุดพักผ่อน
วัตถุประสงค์ในการเดินทางบางอย่างที่จะไม่ได้รับอนุมัติวีซ่าท่องเที่ยว
- การเรียน
- การจ้างงาน
- การแสดงที่ได้รับค่าจ้าง
- การเดินทางมาเยือนในฐานะพนักงานของสายการบินหรือลูกเรือ
- นักข่าวต่างประเทศ ทางวิทยุ ภาพยนตร์ หนังสือพิมพ์ วารสาร หรือสื่อข้อมูลประเภทอื่น
- ผู้มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศสหรัฐอเมริกา
คุณสมบัติ
ผู้สมัครวีซ่าชนิด B-1/B-2 จะต้องแสดงต่อเจ้าหน้าที่กงสุลว่ามีคุณสมบัติที่จะได้รับวีซ่าตามพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐฯ (INA) โดยมาตรา 214(b) ของ INA จะสันนิษฐานว่าผู้สมัครวีซ่าชนิด B-1/B-2 นั้นมีเจตนาที่จะอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาอย่างถาวร ผู้สมัครต้องพิสูจน์หักล้างข้อสันนิษฐานทางกฎหมายดังกล่าวให้เป็นที่พอใจว่า
- วัตถุประสงค์ของการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกานั้นเป็นการเยี่ยมเยียนชั่วคราวเช่น เพื่อธุรกิจ การพักผ่อน หรือการรักษาด้านการแพทย์
- ผู้สมัครวางแผนที่จะอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นการชั่วคราวตามที่ระบุไว้
- หลักฐานการเงินเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายระหว่างอยู่ในสหรัฐอเมริกา
- ผู้สมัครมีที่อยู่อาศัยนอกสหรัฐอเมริกาและมีความผูกพันทางสังคมหรือเศรษฐกิจในด้านอื่นๆ ที่จะทำให้แน่ใจว่าผู้สมัครจะเดินทางกลับประเทศเมื่อการเยี่ยมเยียนสิ้นสุดลง
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นคำร้อง
หากผู้สมัครยื่นคำร้องขอวีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว ต้องส่งเอกสารต่อไปนี้
- แบบฟอร์มการยื่นคำร้องวีซ่าชั่วคราวในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (DS-160) ไปที่เว็บเพจ DS-160 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DS-160
- หนังสือเดินทางที่สามารถใช้สำหรับเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหนังสือเดินทางดังกล่าวนั้นจะต้องมีอายุใช้งานคงเหลือมากกว่าระยะเวลาที่ตั้งใจจะอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างน้อยหกเดือน (นอกจากได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงรายประเทศ) สำหรับผู้ที่ใช้หนังสือเดินทางร่วมกับผู้เยาว์ โปรดทราบว่าแต่ละคนที่ต้องการวีซ่าจะต้องยื่นใบคำร้องขอวีซ่าแยกกัน
- รูปถ่ายขนาด 2×2″ (5 ซม.x5 ซม.) ที่ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือนหนึ่ง (1) ใบ รายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดของรูปถ่ายสามารถอ่านได้จากเว็บเพจนี้
- ใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าชั่วคราวในสกุลเงินท้องถิ่นที่เทียบเท่ากับจำนวน 160 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าธรรมเนียมนี้ไม่สามารถขอคืนได้ เว็บเพจนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าว ในบางกรณีหากวีซ่าผ่านการอนุมัติแล้ว ผู้สมัครยังอาจต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการออกวีซ่า โดยจะขึ้นอยู่กับสัญชาติของผู้สมัคร เว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯมีข้อมูลที่ช่วยระบุว่าผู้สมัครจะต้องชำระค่าธรรมเนียมในการออกวีซ่าหรือไม่ รวมถึงอัตราค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระดังกล่าวนั้น
นอกจากเอกสารดังที่กล่าวมาแล้ว ผู้สมัครต้องแสดงใบนัดสัมภาษณ์เพื่อยืนยันว่าได้จองเวลานัดสัมภาษณ์ผ่านระบบนี้ และยังสามารถนำเอกสารประกอบอื่นๆ ที่เชื่อว่าจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่เจ้าหน้าที่กงสุลได้ติดตัวไปด้วย
ขั้นตอนในการสมัครวีซ่าชั่วคราว
ขั้นตอนที่ 1: เข้าไปที่เว็บไซต์ www.ustraveldocs.com/th
ศึกษารายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการยื่นคำร้องขอวีซ่าและข้อกำหนดต่างๆ เกี่ยวกับวีซ่าแต่ละประเภท เลือก ประเภทของวีซ่าชั่วคราว ที่หน้าเว็บเพื่อศึกษาข้อมูลของวีซ่าแต่ละประเภท
ขั้นตอน 2: กรอกแบบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160)
กรอกแบบคำร้องขอวีซ่าที่ https://ceac.state.gov/genniv/ และพิมพ์ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160
ขั้นตอนที่ 3: สร้างโปรไฟล์ส่วนตัว
สร้างโปรไฟล์ส่วนตัวบนเว็บไซต์ www.ustraveldocs.com/th กรอกข้อมูลประวัติส่วนตัวให้ครบถ้วน จากนั้นเลือกประเภทและที่อยู่ในการจัดส่งเล่มหนังสือเดินทางคืน
ขั้นตอนที่ 4: ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องขอวีซ่า/การสมัครวีซ่า
ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องขอวีซ่าซึ่งขอคืนเงินไม่ได้ (ในสกุลเงินท้องถิ่น) โดยการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) หรือ ชำระเป็นเงินสดได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา โดยผู้สมัครต้องพิมพ์ใบชำระค่าธรรมเนียม CGI เพื่อนำไปชำระค่าธรรมเนียมที่ธนาคาร
ขั้นตอนที่ 5: ทำนัดสัมภาษณ์
เมื่อชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อย ผู้สมัครจะสามารถนัดวันสัมภาษณ์ได้หลัง 12.00 น. ของวันทำการถัดไป (ในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด) หรือหลัง 14.00 น. ของอีก 2 วันทำการถัดไป (หากชำระโดยการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์)
ขั้นตอนที่ 6: เดินทางมาสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูตฯ
ผู้สมัครจะต้องนำใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 ใบยืนยันการนัดหมาย หนังสือเดินทาง (ทั้งเล่มเก่าและปัจจุบัน) รูปถ่ายสี ขนาด 2×2 พื้นหลังสีขาวที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน และเอกสารที่เกี่ยวข้องมาด้วย
ขั้นตอนที่ 7: การส่งคืนเล่มหนังสือเดินทาง
หากสัมภาษณ์วีซ่าผ่าน ผู้สมัครจะไม่ได้รับวีซ่าทันทีในวันสัมภาษณ์ โดยผู้สมัครจะได้รับเล่มหนังสือเดินทางพร้อมกับวีซ่าโดยการจัดส่งจากทางไปรษณีย์ไทย เมื่อได้รับหนังสือเดินทางแล้ว กรุณาตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข้อมูล
ผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางไปประเทศสหรัฐฯ ควรเผื่อเวลาในการยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าก่อนการเดินทาง และไม่ควรจองตั๋วเครื่องบินหรือวางแผนการเดินทางใดๆ ที่ยกเลิกไม่ได้ ก่อนที่จะได้รับหนังสือเดินทางที่มีวีซ่าสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนการสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูตอเมริกา
- มาถึงสถานทูตฯ
-
- เวลาที่แสดงบนจดหมายนัดคือเวลาที่ควรมาถึงหน้าสถานทูตฯ มิใช่เวลาที่จะได้รับการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุล
- ผู้สมัครควรมาถึงก่อนเวลาที่นัดไว้ 15 นาที (ไม่จำเป็นต้องมาก่อนเวลานานเกินไป)
- ตรวจสอบความเรียบร้อยและความปลอดภัย
-
- ผู้สมัครจะต้องผ่านการตรวจสอบความเรียบร้อยและความปลอดภัย ได้แก่ นำสัมภาระติดตัวผ่านเครื่องสแกน เดินผ่านเครื่องสแกนวัตถุโลหะ ผู้สมัครควรนำแค่สิ่งของที่จำเป็นติดตัวมาในวันที่สัมภาษณ์
- ผู้สมัครสามารถนำโทรศัพท์มาได้เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น โดยจะต้องฝากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไว้ ทางสถานทูตฯ และพนักงานรักษาความปลอดภัยจะไม่รับผิดชอบหากเกิดการสูญหายหรือเกิดความเสียหายใดๆ กับโทรศัพท์มือถือในขณะที่ฝากไว้กับพนักงานรักษาความปลอดภัย
- นั่งรอเรียกตามเวลานัดสัมภาษณ์ด้านหน้าบูธ
-
- ยื่นหนังสือเดินทางให้แก่เจ้าหน้าที่ประจำบูธ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและคืนหนังสือเดินทางมาพร้อมกับหมายเลขการจัดส่ง (แทร็กกิ้ง) ของไปรษณีย์ไทย
- ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลและเอกสารที่หน้าต่าง 15
-
- หลังจากติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำบูธแล้ว ให้ผู้สมัครเข้าไปยังห้องรับรองการสัมภาษณ์ จากนั้นไปต่อแถวรอติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลและเอกสารที่หน้าต่าง 11-15
- พิมพ์ลายนิ้วมือทั้งสองข้าง (4 นิ้วมือ ข้างซ้ายและขวา และ 2 นิ้วโป้ง)
- ยืนยันลายนิ้วมือ
-
- ติดต่อที่หน้าต่าง 10 เพื่อยืนยันลายนิ้วมือ
- หลังจากยืนยันลายนิ้วมือเรียบร้อย ให้ผู้สมัครไปต่อแถวรอสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุล
สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร: 090-327 3558, 088-269 5099
Email: contact@thebest-edu.com
Line: @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
เอกสารประกอบในการยื่นคำร้องขอวีซ่า
เอกสารพิ่มเติมในการยื่นคำร้องขอวีซ่าป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้นที่เจ้าหน้าที่กงสุลจะนำมาพิจารณาประกอบการสัมภาษณ์ โดยเจ้าหน้าที่กงสุลจะตัดสินใบคำร้องแต่ละกรณีจากปัจจัยด้านอาชีพ สังคม วัฒนธรรม และปัจจัยอื่นๆที่มีอยู่ขณะที่ทำการตัดสิน โดยอาจดูเจตนาของผู้สมัคร สถานการณ์ด้านครอบครัว แผนระยะยาวของผู้สมัคร ตลอดจนสถานการณ์ภายในประเทศที่ผู้สมัครอาศัยอยู่ ซึ่งแต่ละกรณีจะได้รับการพิจารณาเป็นรายบุคคลภายใต้กฎหมาย
ข้อควรระวัง: อย่าแสดงเอกสารปลอม การหลอกลวงหรือการกรอกข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงอาจทำให้เสียสิทธิ์ในการร้องขอวีซ่าอย่างถาวร หากมีความกังวลเรื่องความลับของข้อมูล ผู้สมัครควรนำเอกสารต่างๆ ใส่ซองปิดผนึกมายังสถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกาด้วยตนเอง สถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกาจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อผู้ใดและจะเคารพข้อมูลที่เป็นความลับของผู้สมัคร
ผู้สมัครควรนำเอกสารต่อไปนี้มาในวันสัมภาษณ์ ควรนำเอกสารตัวจริงมาแทนสำเนา อย่าส่งโทรสาร อีเมล หรือส่งเอกสารประกอบของผู้สมัครไปยังสถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกาทางไปรษณีย์
- หลักฐานแสดงรายได้ การชำระภาษี เอกสารครอบครองทรัพย์สินหรือธุรกิจ หรือสินทรัพย์
- รายละเอียดการเดินทางและ/หรือคำอธิบายอื่นๆ เกี่ยวกับการเดินทางของผู้สมัคร
- หนังสือจากผู้ว่าจ้างแสดงรายละเอียดตำแหน่ง เงินเดือน ระยะเวลาการว่าจ้าง และการอนุมัติวันหยุดหรือวัตถุประสงค์ทางธุรกิจในการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา
- ประวัติอาชญากรรมหรือการดำเนินคดีในศาลเกี่ยวกับการถูกจับกุมหรือถูกตัดสินโทษในทุกที่ แม้ว่าจะได้ชดใช้ความผิดนั้นแล้วหรือได้รับอภัยโทษในภายหลังก็ตาม
นอกจากนั้น ผู้สมัครควรพิจารณานำเอกสารต่อไปนี้มาด้วย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเดินทางของผู้สมัคร
นักเรียน
- นำผลการเรียนล่าสุด ใบรับรองผลการศึกษา และใบรับปริญญา/ใบประกาศนียบัตรมาด้วย นำหลักฐานการสนับสนุนทางการเงินเช่น ใบแจ้งยอดบัญชีรายเดือนจากธนาคาร ใบรับเงินฝากประจำ หรือหลักฐานอื่นๆ
ผู้บรรลุนิติภาวะที่ทำงานแล้ว
- นำหนังสือว่าจ้างจากผู้ว่าจ้างและสลิปเงินเดือนสามเดือนที่ผ่านมา
นักธุรกิจและผู้อำนวยการบริษัท
- นำหลักฐานแสดงการดำรงตำแหน่งในบริษัทและเงินตอบแทน
เดินทางไปเยี่ยมญาติ
- นำสำเนาหลักฐานสถานภาพของญาติที่อยู่ในประเทศสหรัฐฯ (เช่นกรีนการ์ด ใบรับรองสัญชาติ วีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ เป็นต้น)
ผู้เคยเยี่ยมเยียนสหรัฐอเมริกา
- หากเคยเดินทางไปสหรัฐอเมริกามาก่อน ให้นำเอกสารยืนยันการเดินทางเข้าประเทศและสถานะวีซ่ามาประกอบ
เอกสารประกอบสำหรับผู้สมัครที่ต้องการเข้ารับการรักษาพยาบาล
หากต้องการเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล ควรเตรียมเอกสารประกอบต่อไปนี้นอกเหนือจากเอกสารที่ระบุไว้ข้างต้นและเอกสารที่เจ้าหน้าที่กงสุลอาจร้องขอ
- รายงานการวินิจฉัยจากแพทย์ในประเทศของผู้สมัครที่อธิบายถึงลักษณะของอาการป่วยและเหตุผลที่ต้องการเข้ารับการรักษาในสหรัฐอเมริกา
- หนังสือจากแพทย์หรือสถานพยาบาลในสหรัฐอเมริกาแจ้งความยินยอมที่จะรักษาอาการป่วยดังกล่าว รวมทั้งรายละเอียดเรื่องระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษา (รวมทั้งค่าบริการของแพทย์ โรงพยาบาล และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลอื่นๆทั้งหมด)
- หนังสือแจ้งความรับผิดชอบด้านการเงินจากบุคคลหนึ่งหรือองค์กรที่ออกค่าเดินทาง ค่ารักษาพยาบาล และค่าพักอาศัยของผู้สมัคร บุคคลที่รับรองการชำระเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะต้องแสดงหลักฐานว่ามีกำลังทรัพย์พอที่จะให้การสนับสนุนโดยมักจะอยู่ในรูปแบบของใบแจ้งยอดบัญชีจากธนาคาร เอกสารแสดงรายรับ/เงินออม หรือสำเนาการยื่นภาษีเงินได้
ค่าธรรมเนียมวีซ่า B-1/B-2
160 เหรียญสหรัฐ หรือ 4,960 บาท หรือศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่
สถานทูตสหรัฐอเมริกา กรุงเทพมหานคร
เลขที่ 95 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่
387 ถนนวิชยานนท์ ตำบล ช้างม่อย อำเภอ เมือง เชียงใหม่ 50300
อีเมล: ติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่าชั่วคราวและวีซ่าถาวรได้ที่ support-thailand@ustraveldocs.com
ศูนย์ข้อมูลวีซ่า
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงศุกร์ 8.00-20.00 น. (ยกเว้นวันหยุด)
โทรศัพท์: 02-105-4110 (ในประเทศไทย) หรือ (703)-665-7349 (โทรจากสหรัฐฯ)
การเดินทางไปยังสถานทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่
สถานทูตสหรัฐอเมริกา กรุงเทพมหานคร
เลขที่ 95 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
เนื่องจากทางสถานทูตฯ ไม่มีที่จอดรถให้บริการ ผู้สมัครสามารถเดินทางมายังสถานทูตฯ ได้โดยการใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือรถไฟฟ้าสถานีที่อยู่ใกล้สถานทูตฯ
สถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต (ใช้ทางออกที่ 5 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที)
สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่
387 ถนนวิชยานนท์ ตำบล ช้างม่อย อำเภอ เมือง เชียงใหม่ 50300
อยู่ตรงข้ามเทศบาลเชียงใหม่ ใกล้เจดีย์ขาว ติดริมแม่น้ำปิง
ข้อมูลสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน
สถานเอกอัครราชทูต (Wisconsin Ave.)
ที่ตั้ง: 1024 Wisconsin Ave. N.W., Washington, DC 20007
โทรศัพท์: 202-944-3600
โทรสาร: 202-944-3611
วันทำการ: วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา: 9.00 น. – 12.30 น. และ 14.00 น. – 17.00 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการ)
ที่ทำการกงสุล (Kalorama Rd.)
ที่ตั้ง: 2300 Kalorama Rd. N.W., Washington, DC 20008
โทรศัพท์: 202-684-8493
โทรสาร: 202-459-9536
วันทำการ: วันจันทร์-ศุกร์ ยื่นเอกสารด้วยตนเอง เวลา 09.00 น. – 12.00 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการ)
ข้อมูลสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ไทยในสหรัฐอเมริกา คลิกที่นี่
ที่มา:
- Travel State Gov Webbsite: https://travel.state.gov/
- US Embassy Website: https://th.usembassy.gov/
- US Visas State Gov Website: https://www.ustraveldocs.com/
- Royal Thai Embassy Washington D.C. Website: https://thaiembdc.org/th/
วีซ่าท่องเที่ย
สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร: 090-327 3558, 088-269 5099
Email: contact@thebest-edu.com
Line: @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
เมริกา วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา